คลินิกความงามสปอนเซอร์สุขภาพและการแพทย์

ทำความเข้าใจ! ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? อันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ หัตถการที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เพื่อให้ดวงตาดูสดใส และใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ขึ้น ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับหัตถการนี้ให้มากขึ้น ตั้งแต่ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยอะไรบ้าง ? อันตรายไหม ? เลือกยี่ห้อไหนดี ? ควรใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผล ? หาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? ช่วยแก้ปัญหาแบบไหนได้บ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เช่น ใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ร่องน้ำตา และถุงใต้ตา เพื่อเติมเต็มให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟู เรียบเนียน และชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยบาง ๆ ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือเสียเวลาพักฟื้นนานค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร

ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลายอย่าง เช่น

  • ช่วยแก้ปัญหาความหมองคล้ำใต้ตา ขอบตาดำ ทำให้ดวงตาดูสดใส หน้าไม่ดูอ่อนล้า
  • ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึงขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ทำให้ใต้ตาดูเต็มอิ่ม หน้าไม่โทรม
  • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นใต้ตา รอยตีนกาให้ดูตื้นขึ้น ผิวรอบดวงตาเรียบเนียน

เช็กเลยที่นี่! ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด แต่ก่อนตัดสินใจทำ แนะนำให้เช็กตัวเองก่อน ว่าอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้หรือไม่

  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตา เช่น ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ถุงใต้ตา เบ้าตาลึก ตาโหล และริ้วรอยใต้ตา
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อเยื่อใต้ตา
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาจากลักษณะทางพันธุกรรม
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำจากการเป็นภูมิแพ้
  • ผู้ที่อยากให้หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่อยากแก้ปัญหาใต้ตา แต่ไม่อยากเจ็บตัว และไม่ต้องการผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS เติมไขมันใต้ตา ต่างกันอย่างไร ? เลือกแบบไหนดี ?

สำหรับใครที่เริ่มสังเกตว่าใต้ตาดูคล้ำ มีร่องใต้ตา ถุงใต้ตา หรือเกิดความหย่อนคล้อยใต้ตา จนทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าหลายคนจึงมองหาวิธีเติมเต็มเพื่อให้ใต้ตากลับมาดูสดใสอีกครั้ง ยังลังเลว่าระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และการเติมไขมันใต้ตา แบบไหนเหมาะกับตัวเองมากกว่า ลองมาดูความแตกต่างของทั้ง 2 วิธีเพื่อช่วยตัดสินใจกันได้เลยค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบสารธรรมชาติในร่างกาย มีความปลอดภัย และนิยมใช้ในงานปรับรูปหน้า

  • เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ บริเวณใต้ตาดูเต็มขึ้น ลดใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ตาโหล และริ้วรอยรอบดวงตา
  • ใช้เวลาทำไม่นาน เจ็บน้อย ไม่มีแผลเปิด
  • ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหลังทำ และจะค่อย ๆ ดีขึ้น
  • ฟิลเลอร์จะเข้าที่และเห็นผลชัดเจนภายในประมาณ 1–2 สัปดาห์
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ระยะเวลาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ใต้ตาที่เลือกใช้

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การเติมไขมันใต้ตา

การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการนำไขมันจากร่างกายของตัวเอง เช่น บริเวณต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก มาผ่านกระบวนการคัดแยก ก่อนนำมาฉีดเติมเต็มบริเวณใต้ตา

  • ใช้ไขมันของตัวเอง ลดความเสี่ยงในการแพ้
  • ขั้นตอนมีความซับซ้อน ต้องมีการดูดไขมันและปั่นแยกไขมันเป็นของเหลว
  • มีแผลทั้งบริเวณที่ดูดไขมัน
  • ต้องใช้เวลาพักฟื้นมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่อาจไม่เห็นผลชัดในครั้งแรก ต้องทำซ้ำหลายครั้ง
  • อาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกัน หรือไขมันกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ

การเติมไขมันใต้ตา

เลือกวิธีไหนแก้ปัญหาบริเวณใต้ตา ?

ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการค่ะ โดยปัญหาใต้ตาที่มีสาเหตุจากการยุบตัวจากกระดูก การฉีดไขมันจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น

หรือในผู้ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ ไม่อยากพักฟื้น และต้องการความเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่าค่ะ

คลายข้อกังวลใจ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?

บริเวณใต้ตาเป็นจุดสำคัญที่หลายคนกังวลเรื่องความปลอดภัยค่ะ โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตราย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ซึ่งเป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายค่ะ

สิ่งที่อันตรายจริง ๆ คือ การใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือสารที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์ที่ไม่บริสุทธิ์ สารเหล่านี้ไม่สามารถสลายได้หมดและอาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาว จึงไม่ควรฉีดเด็ดขาด

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับความนิยม ?

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผิวบริเวณนี้มีความบอบบางมาก ควรใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด กลืนเข้ากับผิวได้ดี และไม่เป็นก้อน เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันฟิลเลอร์ใต้ตาที่นิยมและมีความปลอดภัยสูง มี 3 ยี่ห้อหลัก ได้แก่ Restylane, Juvederm และ Belotero ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่น และรุ่นที่เหมาะกับสภาพใต้ตาแตกต่างกัน ดังนี้

ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา
ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane (สวีเดน)

  • Restylane Defyne : ฟิลเลอร์เนื้อทน แน่นปานกลาง ยืดหยุ่นดี ช่วยคงรูปใต้ตาได้ยาวนาน อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Restylane Vital Light : ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ละเอียดมาก เหมาะกับใต้ตาชั้นตื้น เก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ให้ดูเรียบเนียน อยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน
  • Restylane Vital : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Classic : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ต้องการเติมเต็มใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Perlane Lyft : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น คงตัวสูง หลังฉีดไม่ฟูเกินไป อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm (อเมริกา)

  • Juvederm Volite : เนื้อฟิลเลอร์ฉ่ำละเอียด เหมาะกับผิวบาง เติมเต็มใต้ตาชั้นตื้นได้เรียบเนียน อยู่ได้นานประมาณ 8–12 เดือน
  • Juvederm Voluma : ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการฉีดใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Juvederm Volux : ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นานประมาณ 18–24 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)

  • Belotero Soft : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด กลืนเข้ากับผิวได้ดี เหมาะกับใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้นานประมาณ 8–12 เดือน
  • Belotero Volume : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟูปานกลาง คงรูปดี เหมาะกับการฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Belotero Revive : ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ผสมกลีเซอรอล ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา อยู่ได้นานประมาณ 6–9 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงเห็นผล ?

โดยทั่วไปปริมาณฟิลเลอร์เพียง 1–2 CC ก็เพียงพอสำหรับเคสที่มีปัญหาไม่มาก แต่หากมีปัญหาใต้ตาหนักหรืออายุมาก เช่น เบ้าตาลึกมาก หรือกระดูกใต้ตายุบตัว อาจต้องใช้ฟิลเลอร์เพิ่มเป็นข้างละ 2–3 CC ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสม การประเมินก่อนฉีดจึงสำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยและเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ?

ค่าบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่มีราคาตายตัว โดยทั่วไปจะเริ่มต้นประมาณ 9,900.-/1 CC ราคาจะปรับแตกต่างกันตามยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้จริงในแต่ละบุคคล รวมถึงโปรโมชันของแต่ละคลินิก ในกรณีที่ใต้ตาลึกมาก ต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 1 CC ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมเพิ่มขึ้นค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก ใต้ตาจะดูเต็มขึ้นและเรียบเนียนขึ้นจากนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 1–2 สัปดาห์ค่ะ

ส่วนระยะเวลาการคงผลลัพธ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6–24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลหลังทำของแต่ละคนค่ะ

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ จะช่วยลดอาการบวม ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นค่ะ

  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดบริเวณใต้ตาในช่วงแรก
  • ควรอยู่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก หรือการตากแดด
  • หลีกเลี่ยงอาหารและพฤติกรรมที่กระตุ้นการอักเสบหรือทำให้บวม เช่น
    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
    • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน เช่น หมูกระทะ ชาบู
    • อาหารหมักดอง อาหารเผ็ดจัด หวานจัด หรืออาหารดิบจากแหล่งที่ไม่สะอาด
  • งดสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้อาการบวมหายช้า และส่งผลให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
  • งดทำเลเซอร์ที่ใช้ความร้อนลงลึกในชั้นผิวทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพและอยู่ได้นานขึ้น

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์สวย

การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีความสำคัญมากค่ะ เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่ผิวบางและมีเส้นเลือดสำคัญ การฉีดจึงต้องอาศัยความแม่นยำสูง หากเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหลังฉีดได้

เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

    • คลินิกได้มาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมาย : ควรมีใบอนุญาตสถานพยาบาลเลข 11 หลัก ระบบความสะอาดที่ได้มาตรฐาน และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย
    • แพทย์เป็นผู้ประเมินและทำหัตถการเอง : สามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์และใบประกอบวิชาชีพได้ เพื่อความมั่นใจว่าดูแลโดยแพทย์จริงค่ะ
    • ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ก่อนฉีดทุกครั้ง : ควรดูสภาพกล่องฟิลเลอร์ สแกน QR Code หรือเช็กเลข Lot และให้แพทย์แกะกล่องใหม่ต่อหน้า เพื่อยืนยันว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ค่ะ
    • มีรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ : แนะนำดูรีวิวจากแพลตฟอร์มที่คลินิกไม่สามารถลบความคิดเห็นได้เอง เช่น Google Review และพิจารณาภาพ Before–After อย่างรอบคอบค่ะ
    • มีการติดตามหลังทำ : คลินิกมีช่องทางหลังทำ เช่น Line@ หรือโทรศัพท์ พร้อมนัดติดตามผล เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดค่ะ

จบปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic

ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคลินิกที่ให้ความสำคัญทั้งด้านความปลอดภัยและความคุ้มค่า V Square Clinic เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความไว้วางใจ เพราะมีการประเมินสภาพใต้ตาเป็นรายบุคคลก่อนทำทุกเคส ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน และมีการอธิบายข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและเหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนค่ะ

สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องลึก ให้ใต้ตาดูสดใส

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ถุงใต้ตา ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรมและแก่ก่อนวัยได้อย่างตรงจุดค่ะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ คลินิกได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

sorrawit

นักเขียนข่าวกีฬาประจำ Thaiger มีความสนใจในด้านกีฬาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรืออเมริกันฟุตบอล รวมไปถึงชื่นชอบเกมและอนิเมะเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันสั่งสมประสบการณ์เขียนบทความกีฬาออนไลน์ มากกว่า 4 ปี หัวข้อที่เชี่ยวชาญคือเรื่องกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล ช่องทางติดต่อ gig@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button