‘ชูวิทย์’ ชี้ ‘ธนาธร’ พลาดท่าเสียเหลี่ยมภูมิใจไทย ฟันธงเลือกตั้งหน้าพรรคประชาชน สส. ต่ำกว่าร้อย

‘ชูวิทย์’ ชี้ ‘ธนาธร’ เดินหมากพลาด เสียเหลี่ยมภูมิใจไทย ฟันธงเลือกตั้งหน้าพรรคประชาชน สส. ไม่ถึง 100 ที่นั่ง ย้ำ กระแสเปลี่ยนทิศ-หมดเวลาลองของใหม่
กลับมาเขย่ากระดานการเมืองอีกครั้งสำหรับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองจอมแฉ ที่ล่าสุด (19 ธ.ค. 68) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิพากษ์วิจารณ์ทิศทางการเมืองของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคประชาชน ระบุว่า
“ความผิดพลาดครั้งใหญ่ ผมเห็นข่าวคุณธนาธรให้สัมภาษณ์ในรายการของคุณสรยุทธ จึงอยากสื่อสารกับคุณธนาธรเพื่อความเข้าใจ ผมมีความบริสุทธิ์ใจที่จะส่งผ่านบทความนี้ให้ ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่คุณธนาธร
อีก 50 กว่าวันคงรู้ผลการเลือกตั้งอย่างที่คุณธนาธรพูดเอาไว้ โดยคุณธนาธรเชื่อว่ารัฐธรรมนูญปี 60 เป็นต้นตอของปัญหาความแตกแยกในสังคม จึงตกลงกับ “ผู้ถือกุญแจ” คือพรรคภูมิใจไทยที่คุณธนาธรเชื่อว่า เป็นพรรคเดียวที่ไขกุญแจ ส.ว. ได้ แต่กลับไม่เอะใจเลยว่า ผู้ถือกุญแจเขาไม่ได้อยากเสียบกุญแจบิดให้
แม้รู้ว่า “เสี่ยง” แต่ต้องขอลอง ซ้ำยังเชื่ออีกว่า แม้พลาดจากการเสี่ยง ประชาชนจะให้โอกาสในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนจะได้คะแนนเสียงมากขึ้น คุณธนาธรไม่ได้แสดง “วิสัยทัศน์“ ที่เข้าใจระบบการเมืองไทยดีพอ แต่ยังคงยึดมั่นถือมั่นกับการตัดสินใจด้วยมุมมองทางการเมืองในอุดมคติของตัวเอง แม้พลาดที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยเติบใหญ่ขึ้น แต่ท่าทีของคุณธนาธรยังไม่ได้ยอมรับในความผิดพลาด กลับทำเหมือนนักการเมืองทั่วไป ที่ต้องออกตัวขึงขังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่าเก่าอีก
ผมมีความปรารถนาดีที่เตือนพรรคประชาชนตั้งแต่ต้นว่า นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่เลือกคุณอนุทิน เพียงแต่คุณธนาธรดื้อรั้นอยากลองเสี่ยงเอง ผลลัพธ์จึงเป็นอย่างที่ผมคาดไว้ทุกประการ นอกจากแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ พรรคประชาชนยังได้รับผลเสียหายที่เกิดขึ้น
แถมไปทำให้พรรคภูมิใจไทยมีแต้มต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยการได้เป็นพรรครัฐบาล โยกย้ายข้าราชการ อนุมัติงบประมาณ ดูดบ้านเล็กบ้านใหญ่เข้าเต็มพรรค สร้างกระแสชาตินิยมเพื่อหวังกลับมาเป็นแกนนำรัฐบาลอีกครั้ง และผมยังคาดต่อไปได้ว่า “พรรคประชาชนจะต้องได้บทเรียนราคาแพงจากการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ด้วย”
ดังนั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมจะพยากรณ์ไว้ว่า “พรรคประชาชนจะได้จำนวน ส.ส. ต่ำกว่า 100” ด้วยการเดินหมากผิดพลาดจากผลลัพธ์ของความเสี่ยง ที่ผมเคยย้ำไปแต่แรกแล้วว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” พรรคประชาชนคิดจะแก้รัฐธรรมนูญด้วยการใช้ทางลัด
แต่ความเป็นจริงคุณธนาธรย่อมต้องรู้ว่า ที่ผ่านมาการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ ต้องทำให้นักการเมือง ส.ส. และ ส.ว. เห็นพ้องต้องกัน ไม่ใช่เรื่องที่พรรคประชาชนจะทำได้ด้วยตัวเองแล้วถือเอาเป็นผลงาน หรือแม้แต่คิดจะใช้วิธีจับมือบังคับให้คนถือกุญแจไปแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ตัวเองต้องการได้ มันจึงเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” ไม่ใช่ “การประนีประนอมครั้งใหญ่”
เพราะการบังคับให้พรรคภูมิใจไทยทำตามใจตัวเอง แลกกับตำแหน่งนายกฯ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการกระทำแต่อย่างใด นี่ต่างหากคือ “หัวใจ” ที่คุณธนาธรมองอย่างคนไม่เข้าใจ จึงส่งผลอย่างรุนแรงต่อพรรคประชาชน จากผลโพลล์ ยังมีคนไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหนอีกเป็นจำนวนมาก ผลการเลือกตั้งจะบอกคุณธนาธร และพลพรรคประชาชนเอง
เพราะแม้ว่าผมเป็นเพียงเสียงเดียวที่เคยเลือกพรรคก้าวไกล และออกมาวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของพรรคประชาชน แต่เชื่อว่า “กระแสได้เปลี่ยนทิศ” แล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่า “กลยุทธ์การตลาด“ ของพรรคประชาชนจะเป็นอย่างไร หากพรรคการเมืองคือสินค้าชนิดหนึ่งที่ให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ดู เมื่อทดลองแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่โฆษณา จะให้ไปลองใหม่คงไม่มีแล้ว
ตอนนี้พรรคประชาชนไม่ใช่ ”ของใหม่” อีกต่อไป จะให้ประชาชนไปลองเลือกใช้อีกทั้งๆ ที่เห็นอยู่ทนโท่ว่าที่ผ่านมาใช้ไม่ได้ ทำอะไรสำคัญ ๆ ผิดพลาดหมด แม้แต่เรื่องที่ตัวเองคิดว่าสำคัญอย่างการแก้รัฐธรรมนูญยังพลาด จากการไปบังคับพรรคอย่างภูมิใจไทยให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่ในหัวแม้แต่นิด ใคร ๆ ก็รู้ แต่พรรคประชาชนกลับไม่รู้ ซ้ำยังเมินเฉยต่อคำติติงของผู้ที่หวังดี
ท้ายสุดเมื่อพลาดแล้ว ก็ยังทำท่าทีว่าตัวเองไม่ผิด แค่นี้ก็รู้แล้วว่า หากเลือกอีก ประชาชนเรียกว่า “เสียของ“
เลือกตั้งเหมือนหนังเข้าโรงฉาย ผู้กำกับ นักแสดง ก็หวังว่าคนจะเต็มโรง แต่ผลจะเห็นว่า แม้ถ่ายทำดีแต่คนดูโหรงเหรง เจ๊งแล้วถึงรู้ตัว
เหมือนตอนเลือกตั้งปี 62 ผมบอกว่าพรรคประชาธิปัติย์หากไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะสูญพันธุ์ จากปี 62 มี ส.ส. 53 คน มาถึงปี 66 เหลือ ส.ส. แค่ 25 คน ปรากฏการณ์นี้จะซ้ำรอยที่พรรคประชาชน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ชูวิทย์” โต้ “ธนาธร” บอกถ้า “พิธา” เป็นนายกตอนนี้ ไทยเสียดินแดนไปแล้ว
- “ชูวิทย์” โพสต์ถึง “พรรคส้ม” โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียค่าโง่อีกครั้ง
- “ชูวิทย์” เตือน “เท้ง” พูดในวาระที่ไม่เหมาะสม เข้าทาง “ฮุนเซน” ย้ำชาติมาก่อน
อ้างอิงจาก : FB ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



