ข่าวการเมือง

ปวิน วิเคราะห์เลือกตั้ง 69 ชี้ชะตา 3 ก๊ก “ภูมิใจไทย-ประชาชน-เพื่อไทย” ใครจะชนะ

หลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีรักษาการ ชิงประกาศยุบสภา ก่อนไทม์ไลน์เดิมตามข้อตกลงทางการเมืองที่ทำไว้กับพรรคประชาชน คาดว่าเพื่อเลี่ยงโดนยื่นอภิปรายไม่ไหววางใจ จากการที่ยกมือให้เสียง สว.ในการโหวตเงื่อนไขการร่างรัฐธรรมนูฐ

ศาสตราจารย์ ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการชื่อดัง ได้ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งใหม่ คาดว่าจะมีขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2569 ชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของ 3 พรรคการเมืองหลัก ท่ามกลางวิกฤตการณ์รอบด้าน

1. พรรคภูมิใจไทย

จุดแข็ง: อนุทินมีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ทำให้มีแต้มต่อในการบริหารจัดการและสื่อสารนโยบายในช่วงก่อนเลือกตั้ง พรรคมีจุดแข็งในนโยบายที่เน้นการปฏิบัติจริงและสามารถเข้าถึงประชาชนในระดับท้องถิ่นได้ดี โดยเฉพาะนโยบายที่ได้รับความนิยม เช่น นโยบายกัญชา และการแก้ไขปัญหาปากท้อง นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ความเป็นพรรคสายกลาง-อนุรักษ์นิยมที่เน้นความมั่นคงของสถาบัน ทำให้ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมบางส่วน อนุทินยังเก่งเรื่องปั่นชาตินิยมและจะใช้เป็นแต้มต่อคะแนนเลือกตั้งจากท่าทีแข็งกร้าวต่อกัมพูชา

จุดอ่อน: ถูกวิจารณ์ว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ เป็นเพียง “รัฐบาลเฉพาะกิจ” ตามดีลกับพรรคประชาชน ทำให้ขาดความชอบธรรมทางการเมืองในระยะยาว จากนั้นก็พบว่าไม่สามารถบริหารวิกฤตได้ ตั้งแต่ปัญหาน้ำท่วม การจัดการซีเกมส์ และการมีภาพถ่ายที่หลุดออกมาร่วมกับแก็งค์สแกมเมอร์

ในเรื่องนโยบายก็เน้นแค่ทำในระยะสั้นมากกว่าการแก้ปัญหาระยะยาว และจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไม่แตะต้องมาตรา 112 อาจทำให้สูญเสียคะแนนจากฐานเสียงที่ต้องการการปฏิรูปอย่างแท้จริง

2. พรรคประชาชน

จุดแข็ง: เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ชัดเจนที่สุด โดยได้รับความนิยมอย่างสูงจากคนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง นโยบายหลักคือการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และถึงแม้จะถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นการ “ล้มล้างการปกครอง” ทำให้ต้องถอยมาประกาศว่า “ไม่อยู่ในนโยบายหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ผลักดัน” แต่จุดยืนในการปฏิรูปสถาบันยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของฐานเสียง

จุดอ่อน: การโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ให้เป็นนายกฯ โดยมีข้อตกลงให้ยุบสภาใน 4 เดือน ถูกมองว่าเป็น “ดีลการเมือง” ที่ทำลายความน่าเชื่อถือในหลักการต่อต้านอำนาจเก่า ทำให้ถูกพรรคคู่แข่งวิจารณ์ว่า “ประเคนอำนาจให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” และอาจทำให้ผู้สนับสนุนบางส่วนรู้สึกผิดหวังที่เห็นพรรคประนีประนอมกับฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับภัยยุบพรรคที่เป็น “ดาบอาญา” จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ จุดอ่อนอีกอย่างคือพรรคตกหลุมชาตินิยม ยอมเล่นตามกระแสแทนที่จะโฟกัสเรื่องสันติภาพและการทูตระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหากัมพูชา

3. พรรคเพื่อไทย

จุดแข็ง: ยังคงมีฐานเสียงอยู่บ้างในภาคเหนือและอีสาน พรรคมีความเชี่ยวชาญในนโยบายประชานิยม ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของประชาชนบางกลุ่ม พรรคสามารถนำเสนอตนเองในฐานะทางเลือกที่อยู่ตรงกลางระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดขั้วกับฝ่ายปฏิรูปเชิงโครงสร้าง จุดขายอย่างอื่นคือการยังคงผูกความอยู่รอดพรรคไว้ที่ตระกูลชินวัตร

จุดอ่อน: พรรคประสบปัญหาความชอบธรรมครั้งใหญ่จากการถูกมองว่า ยอมจำนนต่ออำนาจอนุรักษ์นิยม หรือการตระบัตสัตย์ ซึ่งเป็นการ “สลายขั้ว” โดยละทิ้งพรรคประชาชนและแนวคิดปฏิรูป การกลับมาของทักษิณ และกระบวนการทางกฎหมายที่ตามมา ได้สร้างบาดแผลทางการเมืองที่ลึกทำให้พรรคถูกมองว่าขาดหลักการและมุ่งเน้นผลประโยชน์ของชินวัตรเท่านั้น นโยบายที่ออกมาใหม่ก็ไม่ใหม่ ขายของเก่าที่ผลิตออกมาหลายปี ลอยตัวในปัญหากัมพูชา แถมยังขาดผู้นำทางการเมือง และการส่งลูกเจ๊แดงก็เป็นแค่เรื่อง dynastic politics นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เอา 112 ทำให้ขัดต่อจุดยืนในอดีตและความผิดหวังที่เกิดกับคนเสื้อแดง อ้อ นางแบกยังเป็นตัวทำลายพรรคด้วย

…การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่พรรคภูมิใจไทยในฐานะรัฐบาลรักษาการต้องเร่งจัดการเรื่องการเยียวยา นโยบายเศรษฐกิจของทุกพรรคจึงต้องเน้นการฟื้นฟูผลกระทบจากภัยพิบัติ ขณะที่ปัญหาภัยสังคมและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการโกงประชาชนอย่างกว้างขวาง เป็นอีกประเด็นที่ต้องมีมาตรการทางกฎหมายและเทคโนโลยีที่เข้มแข็งเพื่อเรียกคะแนนเสียง นอกจากนี้ ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีรายงานเข้ามาในช่วงปลายปี 2568 ทำให้วาระด้านความมั่นคงและอธิปไตยมีความสำคัญมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งพรรคที่จะชนะการเลือกตั้งจะต้องนำเสนอแผนงานที่น่าเชื่อถือในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างครอบคลุม สุดท้ายท้ายที่สุดคือการแก้ไขปัญหาโครงสร้างอำนาจทางการเมือง การแก้ไข รธน การปฏิรูปสถาบันต่างๆ จะชนะกันก็ตรงจุดยืนเรื่องเหล่านี้แหละค่ะ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button