ปิดตำนาน ‘จิมมี คลิฟฟ์’ ชัก-ปอดอักเสบ จากไปในวัย 81 ปี ผู้บุกเบิกเรกเก้

รำลึก ‘จิมมี่ คลิฟฟ์’ ตำนานเพลงเรกเก้ เสียชีวิตในวัย 81 ปี ผู้บุกเบิกดนตรีจาเมกาสู่เวทีโลก ภรรยาเผยสาเหตุเศร้า มีอาการชัก-ปอดอักเสบ ย้อนรอยชีวิตจากเด็กยากจนสู่ฮีโร่ผู้สร้างแรงบันดาลใจ
วงการดนตรีเรกเก้สูญเสียบุรุษคนสำคัญ กรณี จิมมี่ คลิฟฟ์ (Jimmy Cliff) หนึ่งในผู้บุกเบิกและผู้สนับสนุนเพลงเรกเก้ เสียชีวิตลงแล้วในวัย 81 ปี โดย ลาทิฟา แชมเบอร์ส (Latifa Chambers) ภรรยาของเขา ประกาศข่าวเศร้าผ่านอินสตาแกรมว่า สามีจากไปเนื่องจากอาการชัก ตามมาด้วยภาวะปอดอักเสบ
ภรรยา เผยข้อความแสดงความอาลัย ระบุว่า “ฉันขอขอบคุณครอบครัว เพื่อน ศิลปิน และเพื่อนร่วมงานทุกคนที่ร่วมเดินทางกับเขามาโดยตลอด ขอให้แฟน ๆ ทั่วโลกรับรู้ว่าการสนับสนุนของพวกคุณคือความเข้มแข็งของเขาตลอดอาชีพการงานที่ผ่านมา จิมมี่ ที่รักของฉัน ขอให้คุณพักผ่อนอย่างสงบ” ในข้อความดังกล่าวมีลายเซ็นของลูก ๆ ของพวกเขา คือ ลิลตี และ อเกน ร่วมลงนามด้วย
สำหรับ จิมมี่ คลิฟฟ์ หรือชื่อเดิมคือ เจมส์ แชมเบอร์ส เกิดในปี 1944 เขาเติบโตมาในความยากจนในฐานะบุตรคนที่ 8 จาก 9 คนในเขตเซนต์เจมส์ จาเมกา เขาเริ่มร้องเพลงในโบสถ์ท้องถิ่นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยได้รับแรงบันดาลใจให้แต่งเพลงเองหลังจากได้ฟังเพลงของศิลปินแนวสกา (Ska)
เมื่ออายุได้ 14 ปี เขาเดินทางไปกรุงคิงส์ตันและเปลี่ยนนามสกุลเป็น “คลิฟฟ์” (Cliff) เพื่อแสดงถึงความสูงส่งที่เขามุ่งมั่นจะไปถึง ซึ่งผลงานเพลงแรกเขาแต่งและทำกีตาร์จากไม้ไผ่เพื่อเล่นเพลงของตนเอง
ในปี 1965 จิมมี่ คลิฟฟ์ ย้ายไปลอนดอนเพื่อทำงานกับค่ายเพลง Island Records (ค่ายเดียวกับที่ดูแล บ็อบ มาร์เลย์ ในเวลาต่อมา) จากนั้นเริ่มประสบความสำเร็จจากซิงเกิล Wonderful World, Beautiful People ในปี 1969 ซึ่งเป็นเพลงแนวฟีลกู๊ดที่สร้างกำลังใจ

แม้เพลงของเขาจะมีความสุขสนุกสนาน แต่แก่นแท้ของดนตรี จิมมี่ คลิฟฟ์ คือ การต่อสู้และความหวัง โดยผลงานเพลงหนึ่งชื่อว่า Vietnam บอกเล่าเรื่องราวของทหารหนุ่มที่เขียนจดหมายกลับมาหาแม่ว่าจะกลับบ้านเร็ว ๆ นี้ แต่กลับมีโทรเลขแจ้งการเสียชีวิตถูกส่งมาถึงแม่ในวันถัดไป เพลงนี้ได้รับการยกย่องจาก บ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) ว่าเป็นเพลงประท้วงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการเขียนขึ้นมา
นอกจากนี้ยังรวมถึง เพลง Many Rivers To Cross ผลงานที่สะท้อนช่วงเวลาที่เจ้าตัวยังเป็นวัยรุ่นในลอนดอนและต้องต่อสู้กับการทำงาน, ชีวิต และการค้นหาตัวตน
ทั้งยังมีผลงานที่เปิดประตูสู่โลก โดยบทบาทการแสดงนำของเขาในภาพยนตร์แนวอาชญากรรมปี 1972 เรื่อง The Harder They Come (ในบท Ivan Martin) เป็นรากฐานสำคัญของภาพยนตร์จาเมกาและได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ที่พาเพลงเรกเก้เข้าสู่ตลาดอเมริกา ต่อมาเขายังกลับมาติดชาร์ตเพลงในสหรัฐฯ อีกครั้งในปี 1993 ด้วยเพลงคัฟเวอร์ I Can See Clearly Now จากภาพยนตร์ Cool Runnings
ตลอดชีวิตการทำงาน จิมมี่ คลิฟฟ์ ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์บทเพลงต่อเนื่อง โดยได้รับรางวัล Grammy Award จากอัลบั้ม Cliff Hanger (1985) และ Rebirth (2012) และได้รับเกียรติให้เข้าสู่ Rock and Roll Hall of Fame ในปี 2010
เขายืนยันว่า ความสัมพันธ์กับแฟนเพลงมีความสำคัญมากกว่าเกียรติยศใด ๆ ที่ได้รับมา กล่าวว่า “เมื่อมีคนมาบอกผมว่า เขาเคยดร็อปเรียน และได้ยินเพลง You Can Get It If You Really Want ของผม แล้วเพลงนั้นทำให้เขากลับไปเรียน จนตอนนี้เขาเป็นครู และใช้เพลงของผมกับนักเรียน นั่นคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม”


ข้อมูลจาก : bbc
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตำนานนักร้องเร้กเก้ “Cocoa Tea” เสียชีวิตด้วยวัย 65 ปี หลังเจอปัญหาสุขภาพรุมเร้า
- สิ้น “เจน กูดดอลล์” นักวานรวิทยาชื่อก้องโลก ผู้บุกเบิกการศึกษาชิมแปนซี
- อาลัย ดร.ทองฉัตร บิดาแห่ง ปตท. ผู้บุกเบิก โชติช่วงชัชวาล ถึงแก่กรรมแล้ว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



