ด่วน! ยกฟ้อง “ชูวิทย์” คดีหมิ่นประมาท “อนุทิน” แสดงความเห็นสุจริต

ศาลพิพากษายกฟ้อง ชูวิทย์ หลังถูก อนุทิน ฟ้องหมิ่นประมาท กรณีวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกัญชา ศาลมองเป็นการแสดงความเห็นสุจริต
ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.1225/2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรคภูมิใจไทย มอบอำนาจให้นายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชือดังเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2566 จําเลยได้บังอาจกระทําความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกรรมต่างวาระ คือ จำเลยบังอาจ จัดให้ ให้ เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินให้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น งดเว้นการลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัคร หรือ การชักชวนให้ไปลงคะแนน โดยขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล หน.พรรคภูมใจไทย กำลังปราศรัยให้แก่ผู้สมัครในสังกัดพรรคของโจทก์บนเวทีปราศรัยชั่วคราว ณ ลานกีฬาแฟลตดินแดง สน.ดินแดง
ซึ่งในขณะนั้นมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยมากกว่า2,000 คน จําเลยได้บังอาจตั้งโต๊ะแถลงข่าวโดยใช้เครื่องขยายเสียงขนาเล็ก(โทรโข่ง)และแจกเสื้อให้แก่ประชาชนได้จูงใจ ให้ประชาชนทั่วไปงดเว้นการลงคะแนนในเลือก สส. สังกัดของโจทก์ โจมตีข้อความเท็จอันเป็น ด้วยโทรโข่ง อาทิ เฮ้ย! ไม่จริง ไม่จริงอย่าไปฟัง ไอ้หนูโกหก อย่าไปฟัง ไอ้นโยบายบ้ากัญชา และมีป้ายไวนิล ข้อความอันเป็นเท็จ อาทิกัญชาค่ายเยาวชน, ภูมิใจ พรรคบ้ากัญชา ไม่เลือกพรรคบ้ากัญชา, กัญชาคือ ยาเสพติด ยกเลิกกัญชา, เยาวชนติดกัญชาเพราะมึง และ เลือกพรรคผิดติดกัญชา เป็นต้น
ศาลพิเคราะห์หลักฐานรวมทั้งการสืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า เนื่องจากโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะมีผลต่อประชาชนและนำเรื่องกัญชาหาเสียงข้อเท็จจริงการนำสืบของโจทก์และจำเลยเมื่อปี 2565 มีการประกาศกัญชากัญชงไม่ผิดกฎหมายและนำไปใช้เสพกันโดยทั่วไป โดยไม่มีการควบคุมทางกฎหมายรวมถึงการที่จำเลยกล่าวว่าโจทก์มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเลี้ยงใบกันชง จึงให้ความสนใจกับธุรกิจกัญชาและกันชงมากกว่าประโยชน์ทางการแพทย์
อย่างไรก็ตามจำเลยเป็นประชาชนที่ให้ความสนใจ เรื่องปัญหาของเยาวชนไม่เห็นด้วยกับการปราศรัยนโยบาย กัญชาเสรี ว่าเป็นสิ่งที่หลอกลวงประชาชน มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงได้ต่อต้านไม่ให้เลือกพรรคที่สนับสนุนการทำกัญชาเสรี ดังนั้นจำเลยจำเลยจึงแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตแม้ถ้อยคำโจมตีนโยบายของโจทก์จะร้ายแรงอยู่บ้างแต่ว่าโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะต้องยอมรับคำติชม ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ส่วนที่มีคำฟ้องตามกฎหมายว่า จำเลยทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง มาตรา 73 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใดๆ ศาลพิจารณาแล้ว ส่วนการที่จำเลยได้เดินหน้าแจกเสื้อสติกเกอร์เข็มกลัดต่อต้านนโยบายกัญชาเสรีเป็นการแจกโดยเปิดเผยไม่ได้ทุจริตในการเลือกตั้งเพียงแต่ต่อต้านนโยบายของพรรคโจทก์เท่านั้น และไม่ปรากฏว่าประชาชนจะเกิดความหวาดกลัวหรือมีความรู้สึกถูกบังคับขู่เข็ญให้เข้าใจ จำเลยจึงไม่มีความผิดในส่วนนี้ ศาลพิพากษายกฟ้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “หนุ่มเมืองจันท์” สับ “อนุทิน” ตั้ง “ธรรมนัส” ดูน้ำท่วม แต่โผล่เปิดงานเชียงใหม่
- “ชูวิทย์” แฉทุนจีนบุกกรมคุก ปมคุกบำเรอกาม พอเรื่องแดงแทงหลังกันเอง
- “ลิซ่า” เบรก “อนุทิน” เลิกผัดข้าว จี้โชว์ฝีมือบริหารภาวะวิกฤติน้ำท่วม
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





