
จอย T-Skirt เปิดใจ สู้มะเร็งปากมดลูกระยะ 4 นานกว่า 1 ปี ล่าสุดก้อนเนื้อเล็กลง เผยอาการเบื้องต้น ปวดท้อง-ประจำเดือนมาผิดปกติ ต้องยกเลิกงานละคร ใช้เงินเก็บการรักษาโรค
หลังจากเข้ารับหารรักษาตัวอยู่นาน ล่าสุด จอย T-Skirt หรือ ธัญพร สนธิขันธ์ อดีตเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังยุค 90 ออกมาเปิดใจถึงเส้นทางการต่อสู้กับโรคมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 หลังใช้เวลากว่าหนึ่งปีในการรักษาและเพิ่งเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาอันหนักหน่วง เผยปัจจุบันแข็งแรงทั้งกายและใจ และพร้อมกลับมาจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้ง
จอยเปิดเผยว่า ณ วันนี้ ถือว่าจบการรักษาแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ 100% เนื่องจากเพิ่งผ่านการรักษาแบบจัดเต็ม ทั้งการให้ คีโม ฉายแสง และฝังแร่ โดยปกติจะต้องเข้าสู่ช่วงติดตามผล (Follow-up) ทุก 3 เดือน ข่าวดีหลังการรักษาคือ ผล CT สแกนแสดงให้เห็นว่าก้อนมะเร็งที่มีขนาด 5 เซนติเมตร มีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 1.5 เซนติเมตร
การรักษาและการวิเคราะห์โรครวมทั้งหมดใช้เวลากว่า 1 ปี เธอยอมรับว่าการกลับมาขึ้นเวทีคอนเสิร์ตครั้งแรกหลังจบคอร์สรักษาทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก เพราะเธอเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้วและห่างหายไปนาน
อดีตเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังยุค 90 เน้นย้ำว่า ภัยเงียบของมะเร็งนั้นมีอยู่จริงจึงขอแชร์เรื่องราวของตนเองเป็นกรณีศึกษา เพราะเธอเคย ชะล่าใจและไม่ได้ตรวจภายในมานานมาก
อาการเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มสงสัยคือ อาการปวดท้องและประจำเดือนมาผิดปกติ ในช่วงแรกอาการไม่รุนแรงจนเธอคิดไปเองว่าอาจจะเป็นอาการของวัยทอง เนื่องจากอายุ 40 ปีแล้ว แต่เมื่ออาการหนักขึ้นจนมีเลือดออกมากถึงขั้นต้องใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่จึงตัดสินใจไปพบแพทย์
แพทย์ตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 5 ซม. ในครั้งแรกแพทย์ใช้คำว่าเป็นเนื้องอก เพราะผิวของก้อนยังเรียบ ไม่ขรุขระเหมือนมะเร็ง แต่หลังจากตรวจชิ้นเนื้ออย่างละเอียด ซึ่งซับซ้อนและต้องตรวจหลายครั้ง แพทย์แจ้งข่าวที่ทำให้เธอใจหายว่าผลไม่ค่อยดี
เมื่อเข้าสู่การตรวจ CT สแกนเพื่อประเมินระยะโรค ผลก็ออกมาว่ามะเร็งมีการกระจายตัวทำให้ถูกจัดเป็นระยะที่ 4 เธอสารภาพว่า เมื่อรู้ว่าเป็นระยะ 4 ความคิดที่ว่า ‘จะหายไหม’ ก็หายไป เหลือเพียงคำถามว่า ‘จะรักษาอย่างไร’

หลังมะเร็งกระจาย แพทย์จึงต้องเริ่มให้คีโม สิ่งที่เธอกังวลที่สุดคือเรื่องผมร่วง ซึ่งแพทย์ก็ยืนยันว่าผมจะร่วงแน่นอน เพราะต้องใช้คีโมถึง 2 สูตรที่ค่อนข้างแรง เธอพยายามเข้มแข็งตลอดช่วงวิกฤต แต่ในวันที่ผมเริ่มร่วงขณะคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ นั่นคือวันที่เธอร้องไห้หนักมากที่สุด
ตลอดการรักษาด้วยคีโมเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะยาจะฆ่าทั้งเซลล์ดีและเซลล์ร้าย บางสัปดาห์หลังจากรับคีโม เธอก็จะเป็นลมอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถทำอะไรได้ กินไม่ได้ และทรุดโทรม
ในช่วงแรก จอยตัดสินใจที่จะไม่บอกใครเรื่องอาการป่วย มีเพียงเพื่อนสนิทและผู้ที่ทำงานด้วยเท่านั้นที่ทราบ โดยให้เหตุผลว่า ตอนนั้นต้องรับมือกับภาวะทางกายที่แค่หายใจยังยาก และไม่พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นหรือคำแนะนำต่าง ๆ จากผู้คนจำนวนมาก แม้จะเป็นความห่วงใยก็ตาม เพราะมันอาจจะทำให้เธอไขว้เขวได้ คุณหมอเองก็สนับสนุนการตัดสินใจนี้
อย่างไรก็ตาม เธอได้รับพลังมหาศาลจากคนรอบข้างและทีมแพทย์ โดยเฉพาะคำแนะนำจากคุณหมอฉายแสงบอกว่า ‘โรคนี้กลัวความสุข’ และ ‘ความสุขจะชนะทุกอย่าง’
จอยยอมรับว่าการป่วยทำให้เธอต้องยกเลิกงานละครและซีรีส์ไปถึง 4 เรื่อง และเงินเก็บร่อยหรอจากการรักษา
กลุ่มเพื่อจึงได้จัดคอนเสิร์ตการกุศลให้ แม้ว่าอดีตนักร้องสาวจะเกรงใจและไม่อยากให้เพื่อนทำ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจกับน้ำใจที่ได้รับจากเพื่อนพ้องและพี่ ๆ ศิลปินที่เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้เธอรู้สึกมีพลังที่จะก้าวต่อไป


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาการล่าสุด จอย T-Skirt หลังเข้ารับรักษา มะเร็งปากมดลูก ระยะ 4
- จอย T-Skirt เปิดใจสู้มะเร็งระยะ 4 เผยเหตุเก็บข่าวเงียบ แค่หายใจก็ใช้พลังมากแล้ว
- ใจหาย จอย T-Skirt ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะ 4 ต้องหยุดทำงานเป็นปี หันมารักษาตัว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



