ตำรวจ จับมือ กสทช. เปิดปฏิบัติการเชิงรุก ล้มเสาสัญญาณชายแดนกัมพูชา
ตำรวจ จับมือ กสทช. เปิดปฏิบัติการเชิงรุก ล้มเสาสัญญาณชายแดนกัมพูชา เพื่อเป็นการตัดเส้นทางสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วร่วมกับสำนักงานกสทช.และหน่วยงานโทรคมนาคมหลายบริษัท เปิดปฏิบัติการเชิงรุก “ล้มเสาสัญญาณชายแดน” สกัดกั้นเส้นทางสื่อสารที่เชื่อมเข้าสู่ประเทศกัมพูชา” ตามคำสั่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงการกำกับดูแลของตำรวจภูธรภาค2 ที่เน้นย้ำการตัดเส้นทางสื่อสารของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้ ระบบ SimBox โทรหลอกเหยื่อในไทย
โดย ผบก.สระแก้วสั่งเข้มตัด และติดแท็กสายสัญญาณรวม 3 จุดชายแดนภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว มอบหมายให้รองผู้บังคับการ และผู้กำกับในสังกัด พร้อมกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ สภ.คลองลึก ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทโทรคมนาคม ได้แก่ AWN, TUC, Symphony, NT, Interlink, Jastel, UIH และ IGC ลงพื้นที่ตรวจสอบ–ตัดสายสัญญาณและติดแท็ก (TagSeal) สายใยแก้วนำแสงที่ส่งสัญญาณข้ามแดน
ผลการปฏิบัติระหว่างวันที่ 17 และ 19 พ.ย. 2568 ดำเนินการแล้ว 3 จุดสำคัญรวมหลายสิบเส้นทางสื่อสาร
จุดที่1 : หลังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก (ข้างศุลกากร) ตัดสายสัญญาณหลัก 28 เส้นของผู้ประกอบการ 9 ราย ได้แก่AWN, TUC, Jastel, Symphony, ALT, UIH, NT, Interlink และIGC
→ดำเนินการตัดติดแท็ก และม้วนเก็บเรียบร้อยแล้ว
จุดที่2 : หลังลานจอดรถโกลเด้นเกตด่านพรมแดนคลองลึก ตัดสายสัญญาณสำรอง4เส้นจาก3บริษัท ได้แก่ AWN, Symphony และInterlink
→ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด
จุดที่3 : จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (หนองเอี่ยน–สติงบท)
สายสัญญาณจำนวน 3 เส้นของ AWN และ Symphony อยู่ระหว่างรอผู้ประกอบการอีก 2 รายเข้าดำเนินการตัดเพิ่มเติมทิศทางการดำเนินงานต่อไป
ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วจะเร่งประสานบริษัทผู้ถือครองสายสัญญาณที่ยังไม่ดำเนินการ เพื่อให้เข้าดำเนินการตามมาตรการเดียวกันในเร็วที่สุด เพื่อปิดช่องทางการสื่อสารที่อาจถูกนำไปใช้โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกาหลีใต้ ร้อง UN เดินหน้าร่วมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเขมรจริงจัง
- เขมร เรียกนักข่าวมาอบรม อ้างเป็นคนลวนลามผู้ต้องหาหญิง เงียบเรื่องตำรวจ
- ไทยผวา! สั่งชะลอนำเข้าสัตว์ปีกจากกัมพูชา หวั่นเชื้อไข้หวัดนกระบาดหนัก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





