ทัพภาค 2 ซัด เขมร ไร้มนุษยธรรม ส่งอดีตเชลยศึกป่วยจิตเวชกลับมารบ

กองทัพภาค 2 ซัด เขมร ไร้มนุษยธรรม ส่ง ซึม ซ็อมแอง อดีตเชลยศึกป่วยจิตเวชกลับมารบ เมินสัญญาที่ระบุว่าจะไม่กลับมารบอีก
จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพของ นายลิม ซัมเอ็ง ทหารกัมพูชาที่เคยถูกฝ่ายไทยจับกุมเป็นเชลยศึกจากเหตุสู้รบครั้งที่ผ่านมา และล่าสุดได้กลับไปประจำการที่แนวหน้าอีกครั้ง
โดยเพจ กองทัพบก ทันกระแส ระบุข้อความว่า “เขมรไม่สนสัญญาอะไรทั้งนั้น เชลยศึกที่ไทยปล่อยตัว (ส.ค. 68) เซ็นสัญญา ไม่กลับมารบไว้ ล่าสุด ออกข่าวเป็นฮีโร่ กลับเข้าสู่หน้าแนว “ลายเซ็นต์ก็แค่น้ำหมึก” #สันติภาพไม่มีอยู่จริง” ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด กองทัพภาค 2 ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าวว่าระบุว่า “ตามที่ปรากฏภาพข่าวของสำนักข่าว Fresh News Daily ว่า
คุณยังจำฮีโร่ทหารของเราชื่อ ” ซึม ซ็อมแอง ” ได้หรือไม่??? เขาคือคนที่ถูกทหารไทยจับกุมและได้รับการปล่อยตัว และตอนนี้ได้ฟื้นตัวกลับมาอยู่แนวหน้าอีกครั้งแล้ว
” นี่คือจิตวิญญาณความกล้าหาญที่แข็งแกร่งที่สุดของฮีโร่ทหารกัมพูชา ผู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ภายใต้สถานการณ์ใดๆ ”
ความจริง คือ…..
ร.ต.ซึม ซ็อมแอง คือ เชลยศึกที่ถูกฝ่ายไทยเราควบคุมตัวไว้ในช่วงการสู้รบ ห้วงวันที่ 24 -28 กรกฎาคม 2568 ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนที่ทางการไทยจะปล่อยตัวกลับไปก่อน 2 ราย เนื่องจากอาการป่วยหนักและมีอาการทางระบบประสาท หรือ จิตเวช เราจึงได้ส่งตัวกลับไปเพื่อให้เข้ารับการรักษาต่อในประเทศกัมพูชา จึงมีเชลยศึกที่ถูกฝ่ายไทยควบคุมตัวเหลืออยู่ 18 ราย
ร.ต.ซึม ซ็อมแอง เป็นบุคคลที่มีอาการพิษสุราเรื้อรัง และเสียสติจากความเครียดในระหว่างการทำการรบ โดยก่อนส่งตัวกลับ ร.ต.ซึม ซ็อมแอง ได้ทำเอกสารสัญญาว่า…..จะไม่เข้าทำการรบอีก ตามที่เขาลงนามเอาไว้
ระหว่างการถูกควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ฯของไทย ได้จัดหารองเท้าให้ใส่อยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมใส่ จนฝ่ายกัมพูชามีการไปออกข่าวบิดเบือนว่าเรากลั่นแกล้งไม่ให้ใส่รองเท้าอีกด้วย
” การที่กัมพูชามีการนำบุคคลที่มีอาการทางจิตเวช เสียสติ หรือ สภาพจิตใจไม่ปกติมาเข้าทำการรบ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง….และการกระทำเยี่ยงนี้ยิ่งเป็นที่ย้ำชัดเลยว่า การปล่อยตัวเชลยศึกที่เหลืออีก 18 ราย ไม่สามารถกระทำได้จนกว่าความเป็นปรปักษ์จะสิ้นสุดต่อกัน ”
หลักการสากลที่เกี่ยวข้อง
1. อดีตเชลยศึกไม่ควรถูกบังคับกลับเข้าสู่การรบโดยทันที หลังการปล่อยตัว ตามอนุสัญญาเจนีวา
2. บุคคลที่มีภาวะปัญหาสุขภาพจิตหรือสงสัยว่ามีอาการ PTSD ถือว่าเป็นผู้เปราะบาง (Vulnerable person)
3. การนำผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าป่วยทางจิตเข้าสู่สนามรบโดยไม่ผ่านการรักษาและประเมินความพร้อม ถือเป็นการเสี่ยงต่อชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
4. การใช้งานทหารหรือบุคคลในสภาพ ไม่พร้อมรบทางกายหรือทางจิตใจ อาจเข้าข่าย การละเมิดหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน
ตามมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงและมนุษยธรรม
การนำบุคคลที่มีภาวะผิดปกติทางจิตหรือสงสัยว่ามีอาการ PTSD กลับไปปฏิบัติการรบ โดยไม่ได้รับการรักษาและประเมินความพร้อมอย่างเป็นทางการ ถือเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม และอาจเข้าข่ายไม่เป็นมนุษยธรรม”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เชลยศึกเขมร หลังไทยปล่อยตัว ฉีกสัญญากลับไปรบ สื่อกัมพูชา ยกย่องเป็นวีรบุรุษ
- นายกฯ สั่งระงับส่ง 18 เชลยศึกเขมร หยุดปฏิญญาสันติภาพ ไทย-กัมพูชา ไม่มีกำหนด
- อนุทิน ประกาศหยุดทุกข้อตกลงกับกัมพูชา-หยุดส่งตัวเชลยศึก 18 คน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





