พารู้จัก หมอนทองวิทยา-อ.สกล โค้ชขับรถสองแถวมาแข่ง ล้มทีมยักษ์ ทะลุเข้ารอบชิง

พารู้จัก หมองทองวิทยา อยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา นั่งรถสองแถวรับส่งนักเรียนมาแข่ง โค้ชขับ “รถขนฝัน” สร้างตำนานล้มยักษ์ อัสสัมชัญศรีราชา เข้าชิงฟุตบอล 7 สี
หากคุณเปิดดูฟีดข่าวในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อาจแปลกใจที่เห็นภาพรถบรรทุกเล็ก หรือรถสองแถวดัดแปลงคันหนึ่ง ปรากฏอยู่บนหน้าสื่อกีฬาเกือบทุกสำนัก พร้อมกับชื่อโรงเรียนที่ไม่คุ้นหูนักอย่าง “หมอนทองวิทยา” ตำนานบทใหม่ของกีฬาฟุตบอล 7 สี ที่ “ม้ามืด” ควบทะยานจนกลายเป็นม้าศึกในวงการฟุตบอลนักเรียนไทย
หมอนทองวิทยา คือโรงเรียนในจังหวัดฉะเชิงเทรา โรงเรียนเล็กๆ ที่คนทั่วไปแทบไม่รู้จัก มีทีมฟุตบอลที่ไม่มีงบประมาณหรูหรา ไม่ใช่องค์กรกีฬาขนาดใหญ่ แต่เป็นเพียงกลุ่มนักเรียนกับโค้ชคนหนึ่งที่รักในฟุตบอลสุดหัวใจ

ภาพที่กลายเป็นไวรัล คือภาพของ อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ที่ต้องขับรถบรรทุกเล็กส่วนตัว บางครั้งใช้รับส่งนักเรียน พานักกีฬาในทีมเดินทางไปแข่งขันในรายการต่างๆ ด้วยตัวเอง แม้ไม่ได้สะดวกสบาย แต่อัดแน่นด้วยความฝันของเด็กๆ จากต่างจังหวัด เดินทางฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อเข้ามาชิงชัยในเมืองหลวง สื่อมวลชนกับแฟนบอลจึงพร้อมใจกันตั้งฉายาให้รถคันนี้ว่ารถขนฝัน
ลักษณ์ของการต่อสู้แบบหลังชนฝา ทีมหมอนทองวิทยาแสดงให้เห็นว่า พวกเขามาที่นี่ด้วยใจรักกับความมุ่งมั่น ไม่ใช่ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนมหาศาล ไม่มีอะไรจะเสีย แม้แต่โค้ชเองก็ตั้งเป้าหมายให้ทีมไม่ตกรอบ 32 ทีมก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

ปรากฏการณ์ ล้มยักษ์ อัสสัมชัญศรีราชา ทะลุสู่รอบชิง
เมื่อทีมเล่นด้วยใจรัก มีหยาดเหงื่อของพลังใจเป็นพลังงาน ก็ไล่ทุบทีมดังๆ เข้ารอบมาเรื่อยๆ รอบก่อนรองชนะเลิศก็เอาชนะเทพศิรินทร์ไป 7-6 เข้าสู่รอบรองเจออัสสัมชัญศรีราชา ที่ถือเป็นทีมเต็งแชมป์มาโดยตลอด
การพบกันในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลนักเรียน 7 คน “แชมป์กีฬา 7HD แชมเปี้ยน คัพ 2025” เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน จึงเปรียบเหมือนมวยคนละชั้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสนามกลับตรงกันข้าม ทีมหมอนทองวิทยา เล่นฟุตบอลอย่างไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีทีมเต็ง เปิดเกมสู้กันอย่างสนุก ก่อนจะสร้างปรากฏการณ์ล้มยักษ์เอาชนะ อัสสัมชัญศรีราชา ไปด้วยคะแนนขาดลอย 6-3 ชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้ส่งแค่หมอนทองวิทยาเข้าชิง แต่ยังส่งพวกเขาเข้าไปนั่งในใจของแฟนบอลทั่วประเทศทันที
ก้าวสุดท้ายสู่ตำนาน
ตอนนี้รถขนฝัน เดินทางมาถึงด่านสุดท้ายแล้ว ทีมโรงเรียนหมอนทองวิทยา มีโปรแกรมสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงเรียนรออยู่ จะลงสนามในนัดชิงชนะเลิศ พบกับอีกหนึ่งทีมแกร่งอย่าง โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท
ไม่ว่าผลการแข่งขันในนัดชิงจะเป็นอย่างไร “รถขนฝัน” คันนี้ก็ได้บรรทุกนักสู้กลุ่มหนึ่งมาไกลเกินกว่าที่ใครคาดคิดแล้ว พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ความฝัน ความทุ่มเท และหัวใจนักสู้ สามารถเอาชนะข้อจำกัดด้านงบประมาณได้เสมอ
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ หมอนทองวิทยา พบ อบจ.ชัยนาท จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.15 น. ที่สนามศุภชลาศัย

ประวัติ เต วรากร หมอนทองวิทยา ระเบิดฟอร์มเจ๋ง ศิษย์ก้นหม้อ อ.สกล
เปิดประวัติ “โค้ชผู้สร้าง” สกล เกลี้ยงประเสริฐ ตำนานผู้ปั้นทีมชาติ สู่ศูนย์รวมใจ หมอนทองวิทยา
ถ้ามาดูคนเบื้องหลังของความสำเร็จระดับปรากฎการณ์ครั้งนี้ เจอชื่อ สกล เกลี้ยงประเสริฐ หลายคนก็ไม่ประหลาดใจ เพราะเขาคือตัวตึง ตัวจริง “พ่อ” คนที่สองของนักกีฬาหลายคน
อ.สกล วัยเด็ก ถูกหล่อหลอมใจรักในฟุตบอลมาจากกรั้วโรงเรียนเทพศิรินทร์ มุ่งมั่นในเส้นทางนี้จนจับอาชีพโค้ช เริ่มต้นที่ศูนย์รวมน้ำใจคลองเตย ก่อนมาราชวินิตบางแก้ว แล้วโด่งดังถึงขีดสุดสมัยคุมทีมโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เปลี่ยนโรงเรียนธรรมดาให้กลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังขาสั้น คว้าแชมป์ฟุตบอล 7 สี ได้ถึง 3 สมัย จากการเข้าชิง 5 ครั้งติดต่อกัน (ปี 2015, 2017, 2018)

สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าถ้วยรางวัล คือการสร้างคน อาจารย์สกลคือผู้ปลุกปั้นเยาวชนที่เติบโตไปเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย ชื่ออย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม, จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ และ วิศรุต อิ่มอุระ ล้วนเป็นนักกีฬาที่ผ่านการฝึกฝนจากอาจารย์สกลมาตั้งแต่วันแรกทั้งสิ้น
อาจารย์คัดเลือกเด็ก ฝึกฝนทักษะ วางรากฐานการใช้ชีวิต จนพวกเขากลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ประสบความสำเร็จ หัวใจสำคัญที่ทำให้อาจารย์สกลประสบความสำเร็จ คือการดูแลนักเตะเหมือน “ลูก” แท้ๆ
“เด็กบางคนที่มาก็มีครอบครัวไม่สมบูรณ์ เขาก็เลยเอาเราเป็นพ่อ และเราก็ดูแลเขาอย่างดี บางทีไม่มีเงินกินข้าว เราก็ให้ เพื่อให้เขาอิ่มท้อง ดังนั้นเขาเลยให้ใจเรา และอยู่กันเหมือนครอบครัว” อาจารย์สกลเคยกล่าว (อ้างอิง Mainstand)

แม้หลังเกษียณอายุ อาจารย์สกลไม่ได้หยุดพัก กลับมาบ้านเกิดที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา รับภารกิจใหม่ในการคุมทีมโรงเรียนหมอนทองวิทยา นี่คือทีมที่ไม่มีใครรู้จัก งบประมาณจำกัด นักกีฬาส่วนใหญ่ยังอายุน้อย อาจารย์สกลนิยามงานครั้งนี้ว่า “เหมือนเราเอาเศษแก้วที่มันแตกๆ มาหลอมเป็นแก้วใบใหม่” รับเด็กที่เคยไปคัดที่อื่นแต่ไม่ผ่าน เข้ามาดูแลปั้นต่อด้วยหัวใจ
ผลลัพธ์คือปรากฏการณ์ล่าสุด หมอนทองวิทยา ทีมโนเนม ล้มยักษ์อย่าง อัสสัมชัญธนบุรี, เทพศิรินทร์ และล่าสุด อัสสัมชัญศรีราชา (ชนะ 6-3) จนทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอล 7 สี ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โรงเรียน
ประวัติ โรงเรียนหมอนทองวิทยา อยู่ที่ไหน
โรงเรียนหมอนทองวิทยา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เลขที่ 85 หมู่ 7 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว เดิมเป็นโรงเรียนเอกชนของมูลนิธิอิสลามฉะเชิงเทราวิทยานามว่า “อิสลามฉะเชิงเทราบึงสิงห์”
ต่อมาได้โอนกิจการให้เป็นโรงเรียนของกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2529 เปิดเป็นโรงเรียนแบบสหศึกษารับนักเรียนเข้าศึกษาครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา 2529 มี นักเรียนจำนวน ทั้งสิ้น 260 คน โดยเปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3
โรงเรียนหมอนทองวิทยา ปัจจุบันเปิดทำการสอนตั้งแต่ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6 มีจำนวน 15 ห้องเรียน ประกอบด้วยชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 9 ห้อง มัธยมศึกษาตอนปลาย 6 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ มีเนื้อที่ทั้งหมด 35 ไร่ ซึ่งได้รับการบริจาคจากนายมาน มะลูลีม ผู้จัดการมรดกโต๊ะกีเลาะ มะลูลีม โดยมีนายใย ยศยิ่ง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





