ให้ได้แบบนี้! รวบสีกากีระดับ “รองผกก.” พื้นที่นครบาล ฟันเดือน 7 หลักโยงบริษัทญาติรับเปิดบัญชีม้า
รวบตำรวจด้วยกันเองระดับ รองผู้กำกับการ (รองผกก.) พื้นที่นครบาล ท้าทายอำนาจโผล่นั่งที่ปรึกษา บริษัทญาติรับเปิดบัญชีม้า ฟันค่าจ้างเดือนละ 7 หลัก ล่าสุดได้ประกันตัวชั้นศาล
จากกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมปฏิบัติการแก้ปัญหาอาชญากรไซเบอร์ แก๊งสแกมเมอร์ โดยข้อมูลสถิติระหว่างวันที่ 1-26 ต.ค.68 พบว่ามีประชาชนได้รับความเสียหายแจ้งเหตุเข้ามาผ่านระบบ 1441 และ Thai Police Online รวม 29,232 เรื่อง มีมูลค่าความเสียหายรวม 1,853 ล้านบาท
และจากการประสานข้อมูลจากประเทศเกาหลีใต้ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ซึ่งทางด้านของพล.ต.ท.จิรภพ ยอมรับว่า “มีจริง” แต่ฐานปฏิบัติการของแก๊งเหล่านี้ในประเทศไทยไม่ได้มีความใหญ่โตเหมือนกรณีในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเพียงการแฝงตัวตามที่พักอาศัย โดยผู้กระทำผิดใช้เส้นทางธรรมชาติในการลักลอบเข้ามาในไทย และก่ออาชญากรรม ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้เป็นฐานปฏิบัติการหลัก แต่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการหลอกลวง
รายงานแจ้งว่า ในปฏิบัติการดังกล่าวพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5865/2568 ลงวันที่ 6 ต.ค.68 ซึ่งออกตามคำร้องของพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ให้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งต้องหาว่าร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่
สำหรับพฤติการณ์นั้นต้องย้อนไปเมื่อ7 ต.ค.2568 ตำรวจ กก.2 บก.ปอท.จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจ ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง รองผกก.(สอบสวน) สน.แห่งหนึ่ง พื้นที่นครบาล โดยในขณะถูกจับกุม ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ไม่ขัดขืนการจับกุม และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
ภายหลังการจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามายัง กก.2 บก.ปอท. เพื่อทำบันทึกจับกุม และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับว่า เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทบุคคลในเครือญาติที่รับเปิดบัญชีม้า โดยรับค่าจ้างเดือนละ 7 หลัก โดยมีญาติๆ ร่วมทำงานกับบริษัทดังกล่าวด้วย ภายหลังจับกุมผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาล ซึ่งศาลอนุญาต ส่วนญาติอีกกลุ่มที่ถูกจับกุมไม่ได้รับการประกันตัว.




อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เคาะมาตรการ อายัดบัญชีม้าแบบใหม่ ระงับยอดโอนออกเท่านั้น ไม่แช่แข็งทั้งบัญชี
- ร้านค้าโวย “บัญชีม้าระบาด“ ตร.แก้ปัญหาชุ่ยๆ “ลอตเตอรี่พลัส” โผล่ย้ำได้รางวัลจริง
- ศาลจำคุก บัญชีม้า 119 ปี ตร. เตือนแรง โทษหนัก คนไทยอย่าขายชาติ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





