ข่าว

ปลายตุลาคม ลมหนาวมาแน่ คนไทยเตรียมปากสั่น อุณหภูมิลด 5 องศา

จับตา ปลายเดือน 18-20 ตุลาคม ลมหนาวระลอกใหม่แรงขึ้นชัดเจน ไทยตอนบนเย็นลงทั่วถึง-เตือนภาคใต้รับมือฝนตกหนัก

แบบจำลองสภาพอากาศ Windy.com ชี้แนวโน้มชัดเจน ปลายช่วงปลายเดือนตุลาคม ตั้งแต่วันที่ 18 เป็นต้นไป มวลอากาศเย็นจากจีนระลอกใหม่จะเริ่มแผ่ลงมา แล้วทวีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงอย่างรู้สึกได้ คาดว่าจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ขณะที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะเพิ่มกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก

คาดการณ์ว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูอย่างเต็มตัว ประมาณวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ซึ่งจะทำให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มมีกำลังแรงขึ้น

แนวโน้มจะชัดเจนยิ่งขึ้นในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม มวลอากาศเย็นกำลังแรงจะแผ่ลงมาลึกขึ้น ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออกทั้งหมด ส่งผลให้อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ประชาชนจะรู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นสบายในตอนเช้า โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสานที่อุณหภูมิอาจลดต่ำกว่า 22 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ และถือเป็นสัญญาณการเริ่มต้นฤดูหนาวที่ชัดเจน

ในทางกลับกัน การที่ลมหนาวมีกำลังแรงขึ้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพอากาศในภาคใต้ โดยลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้พัดพาความชื้นจากทะเลเข้าหาชายฝั่งภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจนถึงนราธิวาส จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ประเทศไทยตอนบนเริ่มเตรียมเสื้อกันหนาวและดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ควรเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในระยะนี้ และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

ปลายตุลาคม คนไทยเตรียมตัวหนาว

ล่าสุด 9 ตุลาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยปีนี้ คาดว่า บริเวณประเทศไทยตอนบน จะเริ่มต้นฤดูหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งจะช้ากว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์และจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2569

อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนประมาณ 21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสูงกว่าค่าปกติประมาณ 1 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 19.9 องศาเซลเซียส) และจะมีอากาศหนาวเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 20.7 องศาเซลเซียส)

สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุด ประมาณ 7 – 8 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณกรุงเทพมหานคร 18 – 20 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 16 – 18 องศาเซลเซียส

ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด ประมาณกลางเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์2569

สำหรับยอดดอยและยอดภูรวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง

ส่วนภาคใต้จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วงส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร

เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อน แล้วเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 4 – 5 เมตร

ลักษณะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก)

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศเย็นบางแห่งทางตอนบนของภาค โดยจะมีฝนเล็กน้อยร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ และอาจลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะๆ โดยจะมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดปกคลุมประเทศไทย

และตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์จะมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไปและมีอากาศหนาวจัดบริเวณตอนบนของภาค สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางช่วง ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป

ส่วนมากทางตอนบนของภาค ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย โดยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย และมีกำลังแรงเป็นระยะๆ

จากนั้น ลักษณะอากาศอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และเริ่มมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง

ภาคใต้

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม มีฝนตกชุกหนาแน่นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่งก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง สำหรับคลื่นลมทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงจะมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร

ส่วนทะเลอันดามัน จะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร เนื่องจากมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้และมีกำลังแรงเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้นอกจากนี้ ในบางช่วงมักจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงหรือพายุหมุนเขตร้อน เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านภาคใต้จากนั้นจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ฝนจะลดลงเนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง และเริ่มเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกหรือลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทน

รายละเอียดตามภาคต่างๆ

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับมีอากาศหนาวบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค และมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน

ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมากขึ้น โดยมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณตอนของภาค สำหรับบริเวณยอดดอย ยอดภูรวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ในบางช่วง จากนั้น ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นและมีฝนบางแห่งในบางวัน กับมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ โดยยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า และจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน

ภาคกลางและภาคตะวันออก

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวันทางตอนบนของภาค กับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน

ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะตอนบนของภาคและบริเวณเทือกเขา กับจะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง จากนั้น ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และมีฝนบางแห่งในบางวัน โดยมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ แต่สำหรับทางตอนบนของภาคและบริเวณเทือกเขายังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย)

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม จะมีฝนตกชุกหนาแน่นตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และฝนหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในบางแห่ง ส่วนคลื่นลมจะมีกำลังแรง และจะมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตรในบางช่วง จากนั้น ฝนจะลดลง เว้นแต่ทางตอนล่างของภาคยังคงมีฝนร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในบางวัน

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งทะเลอันดามัน)

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมกราคม จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร จากนั้น ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง โดยมีฝนร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคม จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวัน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน

ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับจะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง จากนั้น ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่งในบางวัน

ข้อควรระวัง
1. เดือนตุลาคม บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมา และในบางช่วงจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่

2. เดือนธันวาคมและมกราคม บริเวณยอดดอยและยอดภูมักจะเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ กับจะมีหมอกหนาเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นผู้ใช้ยวดยานพาหนะควรเพิ่มความระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

3. เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อาจมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนตัวจากประเทศเมียนมาผ่านประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้ช่วงดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่

4. เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม มักมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนและเคลื่อนเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรงและอาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง โดยมีความสูงของคลื่นประมาณ 4 – 5 เมตร

สภาพอากาศปลายตุลาคม หน้าหนาว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button