ผู้ชายผู้หญิงไลฟ์สไตล์

เปลี่ยน “ความวิตกกังวล” ให้เป็นพลัง การผจญภัยที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย

ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ของความวิตกกังวล เรียนรู้วิธีเปลี่ยนความรู้สึกที่น่ากลัวให้กลายเป็นการผจญภัยของชีวิต เพื่อเพิ่มศักยภาพและค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

“โรควิตกกังวล” (Anxiety disorders) คืออาการป่วยทางจิตที่พบได้บ่อยที่สุดในปัจจุบัน แต่ อาร์เธอร์ ซี. บรูกส์ ผู้เขียนบทความใน The Atlantic ชี้ว่า กุญแจสำคัญในการเอาชนะความรู้สึกหวาดกลัวอาจอยู่ที่การมองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของ “โอกาสและการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของชีวิต”

แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในศตวรรษที่ 19 เซอเรน เคียร์เคอกอร์ (Søren Kierkegaard) นักปรัชญาชาวเดนมาร์ก เคยนิยามความวิตกกังวลว่าเป็นการผจญภัยที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญหน้า

แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าความวิตกกังวลเป็นสิ่งที่ต้องกำจัดทิ้งไป แต่หากอยู่ในระดับที่เหมาะสม ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี ความวิตกกังวลสามารถกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และทำให้ชีวิตกลายเป็นการผจญภัยได้

เปลี่ยน "ความวิตกกังวล" ให้เป็นพลัง การผจญภัยที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย

ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในความวิตกกังวล

แม้ความวิตกกังวลในระดับสูงจนเป็นอันตรายจะเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการรักษา แต่ก็มีข้อมูลชี้ให้เห็นถึงข้อดีของมันเช่นกัน บางคนพบว่าความวิตกกังวลทำให้พวกเขาตระหนักถึงความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น และส่งเสริมความเข้าอกเข้าใจ

บางคนเมื่อกล้าเผชิญหน้ากับความกังวล พวกเขาจะเริ่มตระหนักสิ่งที่อยู่ภายใน ทำความเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

งานวิจัยพบว่า เมื่อคนเรารู้สึกวิตกกังวลในระดับที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป ขณะทำงานที่ท้าทาย พวกเขาจะเข้าสู่สภาวะ “Flow” หรือสภาวะที่จดจ่อกับงานอย่างเต็มที่ได้ดีที่สุด เปรียบเสมือนการทำงานที่อยู่บนขอบของความสามารถ ซึ่งทำให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวา

ค้นพบความหมายของชีวิต คำนี้สำคัญมาก แม้ไม่มีใครอยากเผชิญเหตุการณ์ที่ตึงเครียดซ้ำสอง แต่งานวิจัยพบว่าคนที่ผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ มักจะมองเห็นประโยชน์ในภายหลัง พวกเขารู้สึกเป็นอิสระจากข้อจำกัดในอดีต และมีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับความหมายของชีวิต

สุดท้ายแล้ว เราไม่ควรเพิกเฉยต่อโรควิตกกังวลที่รุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน “ความวิตกกังวล” ในตัวของมันเองไม่ใช่ศัตรู มันสามารถเป็นเพื่อนที่ดีได้หากเราเข้าใจและจัดการอย่างถูกต้อง ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับว่าความวิตกกังวลเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และไม่พยายามกดมันเอาไว้

ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ของความวิตกกังวล เรียนรู้วิธีเปลี่ยนความรู้สึกที่น่ากลัวให้กลายเป็นการผจญภัยของชีวิต เพื่อเพิ่มศักยภาพและค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

โรควิตกกังวล เมื่อเรื้อรัง จะทำลายทั้งร่างกาย จิตใจ

สาเหตุที่เราควรรู้เท่าทันความวิตกกังวล แล้วเปลี่ยนให้มันเป็นพลังเชิงบวก เพราะมนุษย์เราไม่อาจสลัดความคิดด้านนี้ได้อย่างเด็ดขาด แต่ถ้าปล่อยให้มันมีมากไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมหาศาล ทำลายระบบหัวใจและหลอดเลือด

ร่างกายจะตอบสนองให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มภาระการทำงานให้แก่หัวใจและหลอดเลือด น เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองแตกได้เลยทีเดียว

ในระยะเห็นผลใกล้สุด ผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท ปวดกล้ามเนื้อ ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงเป็นเวลานาน จะกดการทำงานของภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น เป็นหวัดหรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจบ่อยกว่าปกติ กระตุ้นให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังหลายชนิด

ผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร อาการที่พบได้บ่อยคือ ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องผูก หรือท้องเสียสลับกันไป ในระยะยาว ภาวะนี้อาจนำไปสู่การเกิดหรือทำให้อาการของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) และกรดไหลย้อน (GERD) รุนแรงขึ้น

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button