หวิดไม่รอด ยูทูปเบอร์เที่ยวเนปาล เจอเหตุจลาจล-เผาสภา คลิปเดียววิวพุ่ง 4.1 ล้าน

sukanlaya s.เผยแพร่: 11 ก.ย. 2568 11:56 น.| อัปเดต: 11 ก.ย. 2568 12:01 น.

163

ระทึก ยูทูบเบอร์ผันตัวนักข่าวสงครามจำเป็น หลังติดอยู่กลางจลาจลเนปาล เผยคลิปนาทีเผารัฐสภา-ม็อบปะทะเดือด ยอดวิวพุ่งทะลุ 4.1 ล้านครั้งในชั่วข้ามคืน

สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเนปาลทวีความรุนแรง หลังการประท้วงของกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) เหตุถูกปิดกั้นการใช้โซเชียลและปัญหาการคอรัปชันที่ซุกใต้พรมเป็นเวลานาน บานปลายจากการขว้างปาก้อนหินและวางเพลิงสู่การเผชิญหน้าด้วยอาวุธ กลุ่มผู้ประท้วงได้บุกเข้าโจมตีที่ตั้งของหน่วยความมั่นคงและปล้นอาวุธปืนของทางการไปเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด กองทัพเนปาลเข้าควบคุมสถานการณ์และออกมาตรการเร่งด่วน ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ประท้วงนำอาวุธที่ถูกปล้นไปมาคืนโดยเร็วที่สุด ช่วงบ่ายวานนี้ (9 กันยายน 2568) สามารถยึดอาวุธคืนมาได้แล้ว 31 กระบอก ประกอบด้วยอาวุธสงครามหลายชนิด เช่น ปืนไรเฟิลจู่โจมแบบ Insas และ AK, ปืนคาร์บิน M-16, ปืนลูกซอง รวมทั้งเครื่องยิงแก๊สน้ำตา พร้อมกระสุนจริง

ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่คลิประทึกของ ‘แฮร์รี่’ (Harry) ยูทูบเบอร์ชาวอังกฤษเจ้าของช่องยูทูป We Hate The Cold ที่บังเอิญเข้าไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาจนกลายเป็นนักข่าวภาคสนามจำเป็น เขาคือ Travel Vlogger ที่กำลังทำโปรเจกต์ใหญ่ ด้วยเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเนปาลคือหนึ่งในจุดหมายระหว่างทาง แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าการเดินทางครั้งนี้จะทำให้ต้องมาอยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์การเมือง

ยูทูบเบอร์อังกฤษบันทึกภาพการประท้วงในเนปาล — ภาพจาก Youtube : wehatethecold

“ผมแค่บังเอิญไปอยู่ตรงนั้นพร้อมกับกล้องของผม” แฮร์รี่กล่าวหลังจากที่การประกาศเคอร์ฟิวกะทันหันทำให้เขาต้องติดอยู่ในกรุงกาฐมาณฑุ ก่อนหน้านี้ ช่องยูทูบของแฮรี่มีผู้ติดตามประมาณ 35,000 คน และมียอดวิวต่อคลิปราว 20,000 – 50,000 ครั้ง แต่คลิปการประท้วงที่เขาบันทึกไว้กลับมียอดวิวพุ่งสูงทะลุ 4.1 ล้านครั้ง

ภาพจากกล้องของแฮร์รี่กลายเป็นแหล่งข้อมูลภาพจากภาคพื้นที่หาดูได้ยาก ทั้งภาพเปลวไฟที่กำลังลุกท่วมอย่างรุนแรงภายในอาคารรัฐสภา, กลุ่มผู้ประท้วงที่กำลังทุบทำลายยานพาหนะ และ กลุ่มผู้ประท้วงที่ปะทะกันท่ามกลางควันแก๊สน้ำตาที่คละคลุ้ง

แม้จะโด่งดังในฐานะนักข่าวสงครามจำเป็นชั่วข้ามคืน แต่แฮร์รี่ยืนยันว่าเขายังคงเป็นนักเดินทางและจะออกเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของเขาต่อไปทันทีที่สถานการณ์คลี่คลายและมีการยกเลิกเคอร์ฟิว