“บิ๊กเต่า” มือปราบอลัชชี เปลือยเบื้องหลัง คดี “วัดพระบาทน้ำพุ” เฉลย “หมอบี” มีพลังวิเศษจริงไหม

“บิ๊กเต่า” มือปราบอลัชชี เปิดหมดเปลือกคดี “วัดพระบาทน้ำพุ” สมีจอร์จ-หมอบี ชี้อาณาจักร “วัด” กลายเป็นเขตปลอดกฎหมาย หากประชาชนไร้สติ
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว (บิ๊กเต่า) รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ได้รับยกย่องฉายา “มือปราบอลัชชี” ได้เปิดเผยเบื้องหลังการทำงานคดีทุจริตเงินวัดพระบาทน้ำพุ กับ หนุ่ม คงกระพันธ์ ผ่านรายการ คุยคุ้ยคน
คดีวัดพระบาทน้ำพุเริ่มขึ้นเมื่อมีผู้มาร้องเรียนที่กองกำกับการ 1 กองปราบปราม เกี่ยวกับการทุจริตฉ้อฉลนำเงินวัดไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสืบสวนหาข้อมูลนานเกือบ 2 เดือน ก่อนจะเริ่มกระบวนการจับกุม
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า หมอมีเป็นเพียง ตัวจุดประกาย แต่ตัวการสำคัญที่แท้จริงคือ ทดอลงกต หรือ “ทิดจอร์จ” แม้เจ้าหน้าที่หลายคนเคยได้ยินเรื่องวัดพระบาทน้ำพุมาก่อน แต่ก็มองข้ามไปเนื่องจากมีภารกิจอื่นต้องทำ การสืบสวนต้องใช้ความรอบคอบอย่างยิ่ง เนื่องจากในตอนแรกยังไม่มีเส้นทางการเงินที่ชัดเจนพอที่จะขอหมายจับได้
ตำรวจต้องพยายามค้นหาเส้นทางการโอนเงินที่ชัดเจนเพียงเส้นเดียว เช่น การโอนเงินจากบัญชีวัดเข้าบัญชีเจ้าอาวาส แล้วโอนต่อไปยังบุคคลที่ 3 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับส่วนรวมในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นหลักฐานที่ศาลจะอนุมัติหมายจับ สำหรับคดีนี้ เจ้าหน้าที่ต้องคัดแยกเส้นทางการเงินได้ 2-3 เส้น เพื่อใช้ขอหมายจับ ซึ่งถือเป็นการ “เปิดเกม”
ปฏิบัติการบุกรวบ 17 จุด พร้อมหน่วยงานรัฐ การเข้าจับกุมเกิดขึ้นพร้อมกันถึง 17 จุด ในเวลาใกล้เคียงกัน การตัดสินใจเข้าจับกุมก่อนแผนที่วางไว้ (ซึ่งเดิมตั้งใจจะบุกพร้อมกันทั้งหมด) เกิดขึ้นเนื่องจากในวันเกิดเหตุ ทิศอรงกตได้ลงมาจากอาคารในเวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งถือเป็นเวลาผิดปกติ และเจ้าหน้าที่เห็นว่ามีโอกาสที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีได้
ปฏิบัติการครั้งนี้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กองปราบปรามการทุจริต, กองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ, กองปราบปรามเทคโนโลยี, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อความโปร่งใสและหลีกเลี่ยงข้อครหาว่าตำรวจกลั่นแกล้งพระ ผลจากการตรวจค้นพบเอกสารหลักฐานและโฉนดที่ดินจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 2,000 ไร่
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ชี้แจงว่า คดีนี้ไม่ได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นคดีอาญา แต่แจ้งข้อหา ยักยอกทรัพย์ โดยมีทิดจอร์จ เป็นผู้ยักยอกทรัพย์ และหมอมีเป็นผู้สนับสนุน เหตุผลที่เลือกข้อหายักยอกทรัพย์ เพราะหากเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน เงินที่ยึดมาอาจต้องแบ่งเฉลี่ยผู้เสียหายหรือตกเป็นของแผ่นดิน แต่การแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ในฐานะเจ้าพนักงาน (พระสงฆ์เป็นผู้จัดการทรัพย์สินวัด) จะทำให้สามารถ ยึดอายัดทรัพย์สินทั้งหมดกลับคืนสู่วัดได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นทรัพย์สินของสงฆ์ต่อไป
ความเชื่อเรื่องพลังวิเศษของหมอบี พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยืนยันว่า เป็นเรื่อง “งมงายเลอะเทอะ” และให้ข้อคิดว่า “ถ้าเขารู้ระลึกชาติได้ ป่านนี้เขาก็หนีหมายจับไปแล้ว”
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยังได้กล่าวถึงปัญหาการหลอกลวงในลักษณะนี้ที่แพร่หลาย ยกตัวอย่าง “ตู้บริจาค” ของวัดพระบาทน้ำพุ ที่มีจุดขายคือเรื่องผู้ป่วย HIV ตู้เหล่านี้ถูกนำไปตั้งทั่วประเทศ ทั้งในร้านพระเครื่อง ห้างสรรพสินค้า ตลาด โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งในรถแท็กซี่ ผู้คนจำนวนมากที่ใจดี หรือผู้ที่หายป่วยและดีใจ มักจะบริจาคเงินจำนวนมากใส่ตู้เหล่านี้ โดยที่ไม่มีระบบตรวจสอบว่าเงินที่เก็บได้จริงเป็นจำนวนเท่าใด
บิ๊กเต่า มองว่า วัดพระบาทน้ำพุเปรียบเสมือนบริษัท ที่มีเลขา ผู้จัดการ และฝ่ายต่างๆ มีเจ้าอาวาสเป็น CEO และเป็น “รัฐฐาธิปัตย์” ที่มีอำนาจทั้งหมดในวัด ทำให้วัดกลายเป็น “เขตปลอดกฎหมาย” ที่กฎหมายเข้าไม่ถึง
ฟังบทสัมภาษณ์เต็มๆ ได้ทางคลิปของหนุ่ม คงกะพันธ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตำรวจเร่งสอบเส้นทางการเงิน “หมอบี-ทิดจอร์จ” ยังไม่ประสาน “นักร้องสาว”
- เจ๋ง ดอกจิก ตอบชัดปมตลกจ. ถือครองที่ดินแทน อดีตพระอลงกต ลั่น “ไม่ต้องสงสัย..ู.”
- คนนอวดผี สั่งพักงาน คลิปเจน ญาณทิพย์ รอชี้แจงปม เงินบุญ-ทองบริจาค
ติดตาม The Thaiger บน Google News: