แพทองธาร ขึ้นให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนพยานคดีคลิปเสียงสนทนาฮุน เซน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยชี้ชะตาสถานะนายกฯ 29 สิงหาคมนี้ แต่คนแห่ซูม “ยาดม” นายก จนไวรัล
วันนี้ (21 ส.ค. 68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าให้ถ้อยคำด้วยตนเองในนัดไต่สวนพยานครั้งสุดท้าย ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของคดี ชี้ขาดสถานะความเป็นผู้นำประเทศ
มหากาพย์คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากฮุนเซน ได้เผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา 17 นาที ระหว่าง น.ส.แพทองธาร จนชาวไทยวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า การกระทำของ น.ส.แพทองธาร อาจเป็นการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจมีลักษณะเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติราชการในหน้าที่ประจำของข้าราชการ เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
ต่อมา กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 40 คน ได้เข้าชื่อยื่นเรื่องผ่านประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160 (5) ที่ว่าด้วยการกระทำการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และ มาตรา 186 ที่ว่าด้วยการก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 และสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
เกิดอะไรขึ้นในวันนี้ (21 ส.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ?
วันนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการตัดสิน คือ “การไต่สวนพยาน” โดยศาลได้นัดพยานบุคคล 2 ปากเข้าให้ถ้อยคำ คือ
- น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ในฐานะผู้ถูกร้อง)
- นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
น.ส.แพทองธาร ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่าย และได้ใช้เวลาเข้าให้ถ้อยคำต่อองค์คณะตุลาการนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที แม้รายละเอียดการไต่สวนจะไม่สามารถเปิดเผยได้ตามคำสั่งศาล แต่มีรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงทุกประเด็น โดยยืนยันว่าการกระทำของตนเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ในการรายงานข่าว นอกเหนือจากสีหน้าเคร่งเครียด เม้มปากแน่นระหว่างอยู่ในศาลของนายกอิ๊ง ได้มีคนตาดีไปเห็นยาดมที่วางอยู่บนโต๊ะ ที่นายกพกเข้าไปด้วย จนเกิดเป็นไวรัลหากันควักว่าคือยี่ห้อไหน
ด้านอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ก็ได้แชร์รูปวาร์ปยี่ห้อ ยาดมของนายก เป็น ยาดมพกพา ชื่อ ยาดมพาสเทล หอมเย็น มีจุดเด่นหมดปัญหาฝาหาย เพราะติดตั้งกับตัวถือ ไม่ต้องถอดชิ้นแยก ราคาอันละ 25 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการไต่สวนพยานทั้ง 2 ปาก ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดวันนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีประวัติศาสตร์นี้ใน วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 15:00 น. ผลการตัดสินจะมีเพียง 2 แนวทาง คือ
1. หากศาลวินิจฉัยว่าการกระทำของ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความผิดตามที่ถูกร้อง เธอจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตามเดิม
2. หากศาลวินิจฉัยว่ามีความผิดจริง ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร จะสิ้นสุดลงทันที และประเทศไทยจะต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
