ข่าวภูมิภาค

จบดราม่า “มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์” แถลง ไม่ได้ใช้ปลากระเบนนก

จบดราม่า “มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์” แถลง ไม่ได้ใช้ปลากระเบนนก

มาสเตอร์เชฟประเทศไทย ปลาประเบน – วันที่ 4 มี.ค. จากกรณีดราม่าโลกโซเชียล หลังรายการ MasterChef Thailand – มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย เผยแพร่ภาพวัตถุดิบแข่งทำอาหารซึ่งเป็นภาพปลากระเบน ทำให้มีผุ้ชมเข้ามาตำหนิเป็นจำนวนมากว่าเป็นการนำปลากระเบนนก ซึ่งเป็นสัตว์น้ำหายากมาใช้ นั้น

 

อ่านข่าวก่อนหน้า : ดราม่าร้อน รายการมาสเตอร์เชฟ ใช้กระเบนทำอาหาร ชาวเน็ตรุมจวกเป็นปลาหายาก

 

ล่าสุด ทางแฟนเพจเฟซบุ๊กรายการ MasterChef Thailand – มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ได้แถลงว่า ปลาที่ใช้ในรายการดังที่ปรากฏในภาพนั้นแท้จริงคือปลายี่สน หรือปลากระเบนค้างคาว ไม่ใช่ปลากระเบนนกอย่างที่วิจารณ์กัน โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

“เรียน ท่านผู้ชมทุกท่าน

ในการนำเสนอวัตถุดิบปลากระเบน ในรายการมาสเตอร์เชฟประเทศไทยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปลากระเบนดังกล่าวคือ ปลายี่สน หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ปลากระเบนเนื้อดำ หรือปลากระเบนค้างคาว ถือเป็นวัตถุดิบพื้นบ้านที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารในหลากหลายเมนู อาทิ ปลายี่สนฟู ปลากระเบนดำแดดเดียว ต้มยำเนื้อปลากระเบนดำ และโดยเฉพาะปลากระเบนหวาน ซึ่งมีขายแพร่หลายตามท้องตลาด รวมทั้งใน Website Shopping Online ทั่วไป อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบของอาหารไทย อาทิ ข้าวแช่โดยเป็นเครื่องข้าวแช่ที่เรียกว่า ปลายี่สนผัดหวาน ในปัจจุบันเมนูดังกล่าวยังติดอันดับ OTOP 5 ดาว ของจังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย

ในความเป็นจริงแล้ว ปลายี่สน หรือปลากระเบนเนื้อดำนี้ ได้ถูกนำเสนอในรายการอาหารทางโทรทัศน์หลากหลายช่องมาโดยตลอด รายการมาสเตอร์เชฟ ประเทศไทยมิใช่รายการแรกที่นำเสนอวัตถุดิบชนิดนี้

ทางรายการฯ มีจุดยืนในการนำเสนอวัฒนธรรมการรับประทานอาหารและให้ความรู้ด้านต่างๆ ในการประกอบอาหาร วัตถุดิบที่ใช้ในการถ่ายทำแต่ละครั้งคือวัตถุดิบทั่วไปที่ใช้ในการประกอบอาหารจริงและหาซื้อได้ในท้องตลาด รายการฯ ไม่มีนโยบายในการนำสัตว์ต้องห้ามมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ดังนั้นหากมีวัตถุดิบพิเศษ ทางรายการจึงยึดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เป็นบรรทัดฐานในการตรวจสอบทุกครั้ง

สุดท้ายนี้ ทางรายการขอขอบคุณทุกความคิดเห็น และจะนำข้อคิดต่างๆ ไปพัฒนารายการต่อไป

HELICONIA H GROUP
ผู้ผลิตรายการมาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย”

 

https://www.facebook.com/masterchefthailand/posts/2304263946528385?__xts__[0]=68.ARAZNHRo4cvTsFU1tuRNCBLtnx7dI5s8PLpX9u-qHBJsJI0V2JgmzrWibL6Xsi_EbS9JU3_g2Qihwu5NbSCF6WFQIqzKP54pvfzjfk7_1gQ2MIOjzyvUwBSmNDMPqK5alekDYHzoqDMnzkUnD1Vof8wc5xWn8OXxwS1b_EDwqA1T7fztfc_DFPTV9_vJez4jHS9Aw9quMd-nhpO6yHAhN9rG7LEEdw3dBEvZrFDE6LSLsc9nypadBeFjWcn9kbfLq7mcFgSVAa60KUyuze4mTQ6_ONml81GhEM0D7xD5nRyoN-4w070fN1pWRfsif_9AwWlNf1uqRe67iLExbmRn3Q&__tn__=C-R

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button