ข่าวการเมือง

“จุลพันธ์” ยืนยันยังไม่ได้ยกเลิก แจกเงินดิจิทัล แม้โดนโยกงบปี 68

จุลพันธ์ ยืนยันยังไม่ได้ยกเลิก แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ชี้สถานการณ์ทำให้ต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่ พร้อมดึงกลับมาตามสถานการณ์

นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาทว่า ต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อม สามารถนำเม็ดเงินลงไปสู่ชุมชนได้ และเป็นโครงการที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบในวงกว้างและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้น มรสุมช่วงนี้ไปได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาและมีกระบวนการในการพิจารณา ส่วนจะทันในช่วงที่จีดีพีต่ำหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาเราทำเศรษฐกิจดีในช่วง 3 ไตรมาสหลัง จึงได้วางแผนไว้ว่า เงินจะต้องเข้ามาในระบบ ในช่วงไตรมาส 3 ให้ได้ และจะต้องเป็นงบผูกพันก่อนวันที่ 30 ก.ย. 68

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เงิน 1.57 แสนล้านบาท จะใช้จ่ายครึ่งหนึ่งภายใน 4 เดือนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะจะต้องรอไตรมาส 3 แต่เราจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อ ติดตามและเร่งรัด

ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามถึงส่วนงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ปี 68 ถูกโยกไปใช้แล้ว และในส่วนของงบ ปี 69 ยังไม่มีการตั้งงบในส่วนของนโยบายดังกล่าวนั้น จะสามารถพูดได้หรือไม่ว่า รัฐบาลนี้ไม่แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้ อย่างที่นายกรัฐมนตรีบอกต้องดูสถานการณ์เป็นรายไตรมาส และดูความเปลี่ยนแปลง การเจรจาภาษีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไร และมีผลกระทบอย่างไร หากวันหนึ่งเมื่อเราพร้อมจะกลับมาพิจารณาใหม่ เมื่อถึงวันนั้นก็จะต้องดูว่าจะนำงบส่วนไหน วันนี้เราดูความจำเป็นเร่งด่วน จึงดึง 1.57 แสนล้าน ไปใช้ในบางภารกิจ รอเป็นการวางรากฐานระยะยาว รวมถึงดูเรื่องผลกระทบการส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ว่าจะนำเม็ดเงินนี้บิดไปใช้ช่วยอย่างไร ภายใต้กรอบกฎหมายที่มี เพราะหากเราไม่ทำอะไร บางส่วนอาจมีความเสี่ยงเรื่องการจ้างงานได้ ทำให้วันนี้ต้องมาจัดลำดับความสำคัญใหม่

นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า โครงการยังคงชะลออยู่ และเม็ดเงินที่จะบิดไปลง ในระบบมีหลายรูปแบบ ขอให้รอดู เพราะมีหลายมิติในการใช้ และเชื่อว่า มีเม็ดเงินเพียงพอ กับการป้อนเงินเข้าไปในระบบในระยะสั้น เพื่อให้ไปยังกลุ่มประชาชนต่างๆ ได้ซึ่งจะมีระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ ในการพิจารณาโครงการ ก่อนจะออกมาเป็นรายชื่อในกลุ่มต่างๆ ซึ่งตอนนั้นจะเห็นชัดว่าเม็ดเงิน 1.57 แสนล้านบาท ในระยะต้นจะใช้อย่างไร และจะเห็นว่าในระยะกลาง ในส่วนของงบปี 69 และ 70 จะวางแผนอย่างไร เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจริงๆ

ส่วนความคืบหน้าในการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท มีความคืบหน้าอย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการคุย ตอนนี้ใช้เพียง 1.57 แสนล้าน แต่หากเงินก้อนนั้นลงมา เราจะแบ่งเป็นงวดๆ และจะพิจารณาในส่วนของงบปี 69 หากมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเติมก็จะมีการพิจารณาต่อไป

ส่วนกระแสที่ประชาชนบางคนรู้สึกโกรธ และลบแอปพลิเคชันทางรัฐไปนั้น นาย จุลพันธ์ กล่าวว่า บังคับใครไม่ได้ แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยังคงเดินหน้า และแอปพลิเคชันทางรัฐ ยังมีบริการที่ภาครัฐ ให้กับประชาชนอีกมากมาย การที่รัฐบาลจะเติมเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจผ่านช่องทางต่างๆ แอปฯทางรัฐก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่เราพิจารณาอยู่ตลอด เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการท่องเที่ยว ที่อาจเป็นช่องทางกลางกับประชาชน ดังนั้นจึงเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์และเราจะดำเนินการต่อเนื่องต่อไป

พร้อมยืนยันว่างบประมาณที่ใส่ไปในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ไม่เคยสูญเปล่า ที่เราทำมาในกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สูงอายุ เห็นการเติบโตของจีดีพี 3 กว่าๆ 3 ไตรมาสติด ซึ่งเราไม่เคยเห็นอย่างนี้มาหลายปี เงินที่เราเติมลงไปเกิดผลบวก จับต้องได้ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนเราก็ต้องยอมรับ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิด ภาษีสหรัฐฯ เมื่อเกิดมาแล้วจะต้องรับสภาพและปรับเปลี่ยนกลไก วิธีการคิดเพื่อให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

“ใช้ประโยชน์มาแล้ว และจะใช้ประโยชน์ต่อไป โครงการนี้การพัฒนาระบบไม่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล วอลเล็ตตั้งแต่ต้น เป็นการพัฒนาของ DGA ของกระทรวงดีอี ซึ่งพัฒนาระบบเพเม้นท์กลาง และเราก็เกี่ยวมาใช้ในเรื่องของวอลเล็ต แต่ตอนนี้เมื่อ วอลเล็ตชะลออยู่ เขาก็ยังเดินหน้าไม่ได้หยุดทำ สุดท้ายยังเป็น แพลตฟอร์มกลางที่รัฐบาลและประชาชนใช้ประโยชน์ ได้กับทุกโครงการ และหากมีโครงการเพิ่มเติมรัฐบาลเติมเงินเข้าไป ผ่านบัตรสวัสดิการเป็นต้น ก็จะเป็นเครื่องมือในการรับแลกจ่าย ของประชาชนได้ต่อไม่ได้สูญเสียอะไร” นายจุลพันธ์ กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx