กรมอุตุฯ เคาะแล้ว 15 พ.ค. เริ่มฤดูฝนปี 68 เตือนระวังฝนทิ้งช่วง-พายุ 2 ลูก

กรมอุตุฯ ประกาศ 15 พ.ค. เริ่มฤดูฝนปี 68 คาดฝนรวมทั้งฤดูมากกว่าค่าเฉลี่ย 5% เตือน มิ.ย.-กลาง ก.ค. ระวังฝนทิ้งช่วง ส.ค.-ต.ค. เตรียมรับมือพายุ 1-2 ลูก จับตาภาคใต้ฝั่งตะวันออกฝนอาจน้อยกว่าปกติ
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ว่าประเทศไทยจะเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝน ประจำปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูกาลเพาะปลูก และเป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วไปควรให้ความสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด
ดร. สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยรายละเอียดว่า การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามเกณฑ์ทางอุตุนิยมวิทยาครบถ้วนทั้ง 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) ประเทศไทยตอนบนเริ่มมีฝนตกครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และตกต่อเนื่องหลายวัน 2) ทิศทางลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้แล้ว และ 3) ลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการเริ่มต้นฤดูฝน
สำหรับภาพรวมปริมาณฝนสะสมตลอดทั้งฤดูในปีนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณร้อยละ 5 โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูฝน ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม พื้นที่ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกชุกหนาแน่นกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5 ถึง 10 อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของฤดูฝน คือตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ปริมาณฝนโดยรวมจะใกล้เคียงค่าเฉลี่ยปกติ มีข้อยกเว้นสำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออก ที่คาดว่าจะมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10

แม้ภาพรวมปริมาณฝนจะดูดี แต่มีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม อาจเกิดสภาวะ “ฝนทิ้งช่วง” ขึ้นได้ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกเขตชลประทานที่มักประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากเป็นประจำ กรมอุตุนิยมวิทยาจึงขอให้ประชาชนและเกษตรกรวางแผนการใช้น้ำอย่างรอบคอบและเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับภาคการเกษตร
ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่คาดว่าจะมีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุดของปี ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงจากพายุหมุนเขตร้อน ที่อาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยได้ประมาณ 1 ถึง 2 ลูก โดยมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือเป็นหลัก พายุเหล่านี้อาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่

อิทธิพลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ-ลานีญา (ENSO) ในปีนี้อยู่ในสภาวะเป็นกลาง และมีแนวโน้มจะคงสภาวะนี้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ฤดูฝนปีนี้มีแนวโน้มการกระจายตัวของฝนค่อนข้างดี และมีปริมาณฝนใกล้เคียงหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยตามที่คาดการณ์ไว้
กรมอุตุนิยมวิทยาขอเน้นย้ำให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่อาจมีความแปรปรวน รวมถึงวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2399-4012-13 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กรมอุตุ เตือน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนถล่มแต่เช้า ป่วนทั่วไทย แนะฝนตกกี่โมงบ้าง
- กรมอุตุฯ แจง “พายุหอยหมี” ถล่มไทย เป็นข่าวปลอม ชี้ยังไม่มีรายชื่อตามตาราง
- พยากรณ์อากาศ 9-12 พ.ค. พายุฤดูร้อนถล่มซ้ำ ไทยตอนบนรับมือ-ใต้ฝนหนัก
อ้างอิง: กรมอุตุนิยมวิทยา
ติดตาม The Thaiger บน Google News: