
UPS ปรับแผนครั้งใหญ่ เตรียมปลดพนักงาน 20,000 คน – ปิดศูนย์กระจายพัสดุ 73 แห่ง หลังลดขนส่งสินค้ากับ Amazon ลงครึ่งหนึ่ง
บริษัท United Parcel Service Inc. หรือ UPS ประกาศเมื่อวันอังคารว่า เตรียมปลดพนักงานราว 20,000 ตำแหน่ง และปิดศูนย์ดำเนินงานมากกว่า 70 แห่งทั่วสหรัฐฯ ภายในกลางปี 2568 หลังจากมีการปรับลดจำนวนพัสดุที่ขนส่งให้กับ Amazon ลงอย่างมาก
แผนปรับโครงสร้างดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ UPS บรรลุข้อตกลงกับ Amazon ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะลดปริมาณการจัดส่งลงมากกว่า 50% ภายในครึ่งหลังของปี 2026
แครอล โทเม่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ UPS กล่าวว่า “การดำเนินการเพื่อปรับโครงข่ายและลดต้นทุนในธุรกิจของเรา เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะยังไม่แน่นอน แต่เรามั่นใจว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะทำให้ UPS แข็งแกร่งและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในอนาคต”
โทเม่ยังเปิดเผยว่า UPS ร่วมงานกับ Amazon มานานเกือบ 30 ปี แต่เมื่อสัญญาฉบับปัจจุบันสิ้นสุดลง บริษัทได้ตัดสินใจประเมินความสัมพันธ์ใหม่ โดยชี้ว่า Amazon “เป็นลูกค้ารายใหญ่ แต่ไม่ได้เป็นลูกค้าที่มีกำไรสูง” และการให้บริการขนส่งแก่ Amazon ส่งผลให้กำไรจากธุรกิจในสหรัฐฯ ถูกกดดันอย่างมาก

ในแง่ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 UPS รายงานกำไรสุทธิ 1.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จาก Zacks Investment Research คาดการณ์ไว้เล็กน้อย หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรจะอยู่ที่ 1.49 ดอลลาร์ต่อหุ้น
รายได้รวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 21.55 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าประมาณการของตลาดที่ 21.06 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ UPS ยังไม่ได้ปรับประมาณการผลประกอบการทั้งปีใหม่ โดยคงเป้าหมายเดิมที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีรายได้รวมราว 89 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
ปัจจุบัน UPS มีพนักงานประมาณ 490,000 คนทั่วโลก การปลดพนักงานครั้งนี้จึงคิดเป็นประมาณ 4% ของแรงงานทั้งหมด ขณะที่ราคาหุ้นของ UPS ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังการประกาศแผนดังกล่าวในช่วงเช้าของวันอังคาร.
อ่านอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ค่าย ‘คิมซูฮยอน’ ใกล้เจ๊ง เลิกจ้างแม่บ้าน พนง.เก้าอี้ร้อน เซ่นค่าเสียหาย 6 พันล้าน
- เฉลยแล้ว นักร้องดังเลิกจ้างเเดนเซอร์ เป็นธรรมหรือไม่ เปิดฏีกาเทียบชัด
- สีทาบ้านยี่ห้อดัง จ่อเลิกจ้าง 2,200 ตำแหน่ง ปิดโรงงาน 5 แห่ง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: