ข่าว

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” ยอมรับรู้จัก สป.สายไหม เล่าเป็นคนนิสัยยังไง

เอกภพ สายไหมต้องรอด ยอมรับรู้จัก สป.สายไหม หรือ เสี่ยป่อง จริง ไม่ได้เป็นลูกน้องตน เล่าเป็นคนมีจิตอาสา ช่วยเหลือตอนโควิด แต่เป็นคนอารมณ์ร้อนบ้าง

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ สป.สายไหม หรือ เสี่ยป่อง ถ่ายภาพคู่กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จนทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เอกภพ สายไหมต้องรอด เกี่ยวข้องกับเว็บพนันด้วยหรือไม่นั้น

นายเอกภพให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตนเองก็รู้สึกตกใจกับประเด็นนี้เหมือนกัน เพราะตอนที่ถ่ายรูปด้วย ก็ไม่เคยสังเกตว่า สป.สายไหม ใส่เสื้ออะไร แต่พอมารู้ว่าเป็นเสื้อโปรโมทเว็บพนัน ก็ถึงกับบอกว่า “หลังจากนี้ ก่อนจะถ่ายรูปกับใคร คงต้องดูเสื้อเขาก่อน” เนื่องจากปกติ ตนจะถ่ายรูปกับคนหลายคน และไปร่วมงานหลากหลายสถานที่อยู่แล้ว เเละปฏิเสธที่จะไม่ถ่ายรูปด้วยคงไม่ได้ เเต่ไม่คิดว่าวันหนึ่ง จะมีคนนำภาพถ่ายคู่ มาโยงความสัมพันธ์กัน

ซึ่งตนยอมรับว่า รู้จักกับ สป.สายไหม หรือเสี่ยป่อง จริง เนื่องจากเขาเคยอยู่ในพื้นที่สายไหมมาก่อน และที่มีคำต่อท้าย ว่า สายไหม นั้น ไม่ได้หมายถึง การเป็นลูกน้อง ลูกพี่กันกับตน อาจเป็นเพราะเขา อยากจะแสดงถึงถิ่นที่อยู่ก็เป็นได้ ในสมัยนั้น แต่ตอนนี้ สป.สายไหม ได้ย้ายออกไปแล้ว หลายคนก็มองว่า เขาควรเปลี่ยนคำลงท้ายใหม่ เป็น สป.ธัญบุรี เพื่อจะได้ไม่ไปเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่น จนเกิดความเข้าใจผิด ส่วนคำว่า สป. ย่อมาจาก เสี่ยป่อง

ช่วงแรกที่รู้จัก สป.สายไหม เขาเป็นคนที่มีจิตอาสา เคยนำยา และข้าวสาร มาบริจาค ในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้คุ้นเคยกัน รวมถึงเขาเป็นคนชอบเข้าร่วมกิจกรรม ตอนนั้นจะนำคนเข้ามาในค่ายมวย เพื่อมาฝึกมวย ซึ่งตัวเขาเองก็ชอบเล่นการพนัน เล่นมวย เล่นเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ เท่าที่ทราบจากหลายคนที่เล่าให้ฟัง แต่ตนไม่เคยรู้ว่า เขาเคยทำเว็บพนันของตัวเองด้วย

สำหรับนิสัยใจคอของ สป.สายไหม เขาเป็นคนโผงผาง อาจจะมีอารมณ์ร้อนบ้าง แล้วแต่สถานการณ์ รักพวกพ้องเพื่อนฝูง ซึ่งในครั้งนี้ จุดแตกหักที่ทำให้เขาต้องโพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัวนั้น อาจจะมาจาก วันที่น้องพีช นำพวงมาลัยไปไหว้ขอโทษผู้เสียหาย แต่ถูก กัน จอมพลัง ดึงผู้เสียหายออก อาจจะทำให้ตัวเขา เกิดความไม่พอใจแทน นายกเบี้ยว

ซึ่งถ้าตนสามารถพูดกับ สป.สายไหม ได้ ก็อยากจะบอกกับเขาว่า “ ปล่อยให้เรื่องนี้ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เคลียร์กันดีกว่า” แต่ตนก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปบอกเขาได้ เลยทำได้แค่ในส่วนของตน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button