บันเทิง

สรุปดราม่า “บิว วราภรณ์ – เจ้าของหมาปอม” เกิดอะไรขึ้น เรียงไทม์ไลน์ต้นจนจบ

สรุปดราม่า บิว วราภรณ์ และ เจ้าของหมาปอม เกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เหตุการณ์แรก หลังคู่กรณีแจงไทม์ไลน์ สุดท้ายอินฟลูฯ สาวงัดหลักฐานโต้

ดราม่าคนรักหมา หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความร่ายยาวถึงความขัดแย้งระหว่างตนกับ บิว วราภรณ์ อินฟลูเอนเซอร์คนดัง อ้างว่าน้องสุนัขของบิวไปกัดสุนัขของอีกฝ่ายจนตาย ซึ่งมีการขอโทษและคุยตกลงกันเรียบร้อย แต่เรื่องราวกับบานปลายไปกว่าเดิมมากจนขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ในเอ็กซ์

ทีมงานไทยเกอร์จึงขออนุญาตนำข้อมูลของทั้งสองฝ่ายมากางและสรุปให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสถานการณ์และที่มาที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแบบครบจบในที่เดียว

ประเด็นแรกของฝั่งเจ้าของหมาปอม

เริ่มต้นที่ “คู่กรณี” โพสต์ชี้แจงเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มี.ค. น้องหมาปอมอายุ 14 ปีของตนหลุดออกจากบ้านไปด้วยความสะเพร่าของตนเอง จนโดนสุนัขไซบีเรียน 2 ตัวของ “บิว” กัดตายกลางหมู่บ้าน อ้างว่าทราบเรื่องจากการถามชาวบ้านในพื้นที่และขอดูกล้องวงจรปิด

จากนั้นเจ้าของหมาปอมจึงโทรติดต่อบิวครั้งแรกในเวลา 18.22 น. แต่บิวแจ้งว่าไม่อยู่บ้าน และจะเข้ามาคุยกันอีกทีในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค. ทว่าวันดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครว่าง จึงเปลี่ยนมาเป็นมาพบกันในที่เกิดเหตุของวันเดียวกันในเวลา 20.00 น. แทน ระหว่างนั้นตนจึงจัดการศพน้องปอมและคุยปรึกษากับทางบ้าน

ทว่าพอถึงเวลานัดหมาย ตนกับครอบครัว รวม 5 คน ได้มารอที่จุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากอีกฝั่งออกมาเจอในเวลา 20.45 น. แม่-พี่สาวตนจึงขอกลับเข้าบ้านไปก่อน

ภาพจาก Kamolsanti Chutisorn

ข้อสรุปของการพูดคุยในครั้งนั้นคือ “บิว” และเจ้าของหมาปอม ได้ขอโทษกันและกันพร้อมยอมรับว่าหมาของตนเองหลุดออกมาทั้งคู่ แต่โชคร้ายที่ฝั่งตนสูญเสียน้องไป จึงกำชับให้บิวมีมาตรการดูแลหมาให้ดีกว่านี้ เพราะหมาตัวใหญ่ และหลุดออกมาหลายรอบแล้ว รวมถึงไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่าตนไม่ต้องการรับเงินชดเชยใด ๆ

บิวจึงแจ้งว่า หากมีคำแนะนำหรืออยากให้ดูแลด้านใดสามารถติดต่อกลับได้ทันที แล้วทุกคนแยกย้ายกัน ณ จุดเกิดเหตุในเวลาประมาน 22.00 น.

ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค. มีหมาไซบีเรียนหลุดมาในกลุ่มหมู่บ้านอีกครั้ง ตนกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จึงส่งข้อความเตือนในกลุ่มไลน์หมู่บ้าน ว่า มีใครทราบชื่อเจ้าของหมาตัวดังกล่าวหรือไม่ พร้อมแชร์ว่าหมาปอมของตนพึ่งถูกไซบีเรียน (หมายถึงหมาบิว) กัดตาย โดยตนกำชับและคุยกับเจ้าของไปแล้ว แต่ไม่นึกว่าจะหลุดออกมาเร็วขนาดนี้

ภาพจาก Kamolsanti Chutisorn
ภาพจาก Kamolsanti Chutisorn

ต่อมา “คู่กรณี” ได้โทรมาแจ้งว่าหมาไซบีเรียนตัวดังกล่าวไม่ใช่ของตน เจ้าของหมาปอมจึงรับทราบเรื่อง และไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อ กระทั่งวันที่ (20 มี.ค.) ตนได้คุยกับแม่เพื่อเตรียมไปเจอกับคู่กรณี เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่พร้อม ซึ่งตนได้โทรไปหาอีกฝ่ายทั้งหมดสองครั้งคือ 16.34 น. และ 19.44 น. แต่อีกฝ่ายไม่รับสายและไม่ติดต่อกลับมาอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

ส่วนเหตุผลที่เข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ “คุณบาส” (พี่ชายของบิว) นั้น ตนขอโทษจากใจจริงที่ใช้พื้นที่โซเชียลมิเดียของเจ้าตัว สื่อสารไปยังคู่กรณี แต่เนื่องจากในวันที่ 6 เม.ย. คุณบาสเจอเหตุการณ์คล้ายตน จึงต้องการแสดงความเสียใจและหวังให้คู่กรณีติดต่อกลับมาที่ตนอีกครั้ง

หมายเหตุ : ทีมข่าวไทยเกอร์ขอขยายความ โพสต์ที่เจ้าของหมาปอมหมายถึง คือเหตุการณ์ที่แมวของ “บาส” นั้นหลุดออกมาจากบ้านจนโดนหมารุมกัดตาย เจ้าของหมาปอมจึงคอมเมนต์แสดงความเสียใจ พร้อมแจ้งว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่ได้รับคำขอโทษใด ๆ จากนั้นมีบุคคลที่ 3 มาคอมเมนต์เสริมว่า แย่มาก หากเป็นหมาแจ้ (คาดว่าหมายถึงบิว) ตาย ตอนนี้คงกลายเป็นข่างวดังไปแล้ว

ต่อมาในเวลา 11.26 น. ของวันที่ 7 เม.ย. คู่กรณีติดต่อกลับมา ตนจึงสอบถามว่าทำไมถึงโทรกลับมาตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. ทั้งที่มีเบอร์ตน ซึ่งอีกฝั่งแจ้งว่า ผิดพลาดเอง ติดธุระ ก่อนได้ข้อสรุปว่า คู่กรณีเข้าใจผิด เข้าใจว่าตนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเจ้าของหมาปอมมองว่า “ถ้าเราไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว วันที่ 20 มีนาคมเราจะพยายามติดต่อคุณไปทำไม? เราจะรอให้คุณติดต่อกลับมาทำไม”

เจ้าของหมาปอมจึงแจ้งกลับไปอย่างชัดเจนว่า “ให้ทางคู่กรณีกลับไปพูดคุยกันแล้วให้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง” กระทั่งวานนี้ (8 เม.ย.) คู่กรณีทั้งสอง ไลฟ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกตนฟังและพบว่ามีความคลาดเคลื่อนในหลาย ๆ ประเด็นในข้อเท็จจริง

ภาพจาก Kamolsanti Chutisorn

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องการในตอนแรก คือ การนัดหมายและต้องการคำขอโทษด้วยความจริงใจโดยตรงกับคุณแม่ ซึ่งเป็นเจ้าของหมาปอมตัวจริง แต่ไม่มีการตอบรับใดใดทั้งสิ้น ทว่าตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษนั้นอีกต่อไปแล้ว

ยืนยันว่าไม่ได้อยากทะเลาะกับใคร และไม่มีการต่อว่าคู่กรณีแต่อย่างใด สุดท้ายขออนุญาตพูดในมุมของคนที่โกรธ และสูญเสียหมาที่เลี้ยงเหมือนลูกมาตลอด 14 ปี ตอนนี้พวกตนโดนกระแสโซเชียลถล่มเยอะมาก ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ไม่แพ้กัน จึงขอจบประเด็นทั้งหมดตรงนี้เท่านี้

ภาพจาก Kamolsanti Chutisorn

ประเด็นต่อมาของฝั่ง “บิว”

หลังเรื่องราวบานปลาย “บิว” โพสต์สตอรีอินสตาแกรม @bewvaraporn ว่า ตนพึ่งทราบเรื่องจากน้องสาวและเพื่อนที่ส่งโพสต์ชี้แจงข้างต้นของ “เจ้าของหมาปอม” มาให้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าทำไมอีกฝั่งถึงดื้อ ไม่ยอมจบ เสียใจกับเรื่องน้องหมาแล้ว ยังต้องมาทะเลาะกับคนอื่นและโซเชียลอีก ควรเอาเวลาไปทำบุญ ทำงานดีกว่า แถมยังเอารูปหมาปอมที่ตายแล้วมาโพสต์อีก

เริ่มต้นบิวชี้แจงทีละประเด็น เจ้าตัวกล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีหมาไซบีเรียนหลุดในหมู่บ้านครั้งที่ 2 นั้น (รอบที่มีคนพิมพ์แชทในกลุ่มไลน์) ว่า หมาตัวนั้นไม่ใช่หมาของพวกตนจริง ๆ แต่เจ้าของหมาปอมกลับไม่ออกมาแก้ข่าวเลย ทั้งที่แจ้งข้อเท็จจริงและโชว์หลักฐานกล้องวงจรปิดให้ดูไปแล้ว จนเพื่อนบ้านเข้าใจผิดกันไปหมด แต่ก็ยอมรับว่าตนไม่ได้แก้ตัวอะไรกับท่านอื่น ๆ เพราะมองว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ปล่อยมันไป ประเด็นนี้บิวจึงมองว่าเจ้าของหมาปอมควรออกมาขอโทษตนหรือไม่ พร้อมแนบภาพแชทในกรุ๊ปหมู่บ้านและหลักฐานวิดีโอดังนี้

ภาพจาก @bewvaraporn
ภาพจาก @bewvaraporn
ภาพจาก @bewvaraporn
ภาพจาก @bewvaraporn
ภาพจาก @bewvaraporn

ตัดกลับมาที่ไทม์ไลน์วันที่ 16 มี.ค. (วันแรกที่จะมานัดเจอกัน) ตนขอแย้งว่าคำกล่าวอ้างของ “เจ้าของหมาปอม” ที่ระบุว่า “ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครว่าง จึงอยากให้มาพบและพูดคุยกันในวันเกิดเหตุเลย” นั้น ตนว่างทั้งวัน มีแค่ออกไปทำบุญให้น้องหมาปอมเท่านั้น แถมยังถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วย พร้อมแนบหลักฐานชัดเจน

ส่วนกรณีที่เจ้าของหมาปอมบอกว่า อัดเสียงตอนคุยกับโทรศัพท์กับ “ธนิน” (สามีบิว) ไว้นั้น อีกฝ่ายสามารถเอามาเปิดเผยได้เลยว่าตนและสามีพูดความจริงหรือไม่ ทั้งที่อดทนโดนด่าว่าหน้าระรื่นในโซเชียล ดูมีความสุข ตนมองว่าแบบนี้คือต้องห้ามมีความสุขด้วยหรือ

ภาพจาก @bewvaraporn
ภาพจาก @bewvaraporn

ขณะเดียวกัน “บิว” โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าตนปรับเปลี่ยนมาตรการการดูแลน้องหมาไซบีเรียนมา 3 อาทิตย์แล้ว (คาดว่าตั้งแต่เกิดเรื่องรอบแรก) โดยระบุว่า “ทุก ๆ เช้าของกล้วยหอม แรคคูน ใส่เชือกยาว 9 เมตร สามารถเดินเข้าออกบ้านได้ และนอกบ้านได้
แต่ไม่สามารถหนีออกจากบ้านได้แล้วค่ะ เบื้องต้นทำแบบนี้มา 3 อาทิตย์แล้ว น้องแฮปปี้ ไม่กัดเชือกขาด และวิ่งไปมา วิ่งเล่นในบ้าน วิ่งออกข้างนอก กระโดดถึงโซฟาได้ และสามารถเดินไปถึงหน้าบันไดในบ้านได้ สำหรับเพื่อนๆที่กังวัลว่าน้องจะเครียดมั้ย น้องโอเคมากๆเลยค่ะ แล้วพวกเราก็โอเคกับวิธีการแบบนี้ในตอนนี้

เวลาใครเปิดประตูไปมาเวลาบิวกับธนินไม่อยู่ น้องก็จะไม่มีโอกาสหลุดอีกค่ะ ส่วนช่วงเวลาตอนเย็นจนถึงเข้านอน จะให้อยู่ในบ้านเปิดแอร์ให้และปลดเชือก ช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคน หรือคนพาหมาจูงให้ในหมู่บ้าน จะพาน้องทั้งสองออกไปวิ่งออกกำลังกายค่ะ”

ภาพจาก Bew Varaporn

อย่างไรก็ดี ตอนนี้ฝั่งเจ้าของหมาปอมยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไรเพิ่มเติมหลัง “บิว” ออกมาเผยข้อเท็จจริงในแต่ละประเด็น หากมีข้อมูลอย่างไร ทีมงานไทยเกอร์จะนำเสนอต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

yo

นักเขียนข่าว บทความทั่วไปประเภทไลฟ์สไตล์ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. ติดต่อได้ที่อีเมล yo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button