ประวัติ “ลิซ่า ภคมน” สส.หญิงแกร่ง ปชน. ดีกรีอดีตผู้สื่อข่าว Voice TV

yoเผยแพร่: 25 มี.ค. 2568 17:53 น.| อัปเดต: 25 มี.ค. 2568 18:01 น.

ประวัติ "ลิซ่า ภคมน" สส.หญิงแกร่ง ปชน. ดีกรีอดีตผู้สื่อข่าว Voice TV

เปิดประวัติ ภคมน หนุนอนันต์ หรือ “ลิซ่า” สส.พรรคประชาชน ควบคำแหน่งรองโฆษก เส้นทางชีวิตในฐานะสื่อมวลชนระดับมือโปร

สุดเดือด ! กับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากสส.พรรคประชาชน (ปชน.) พากันงัดข้อมูลลับมากางให้ประชาชนเห็นชัด ๆ ว่ารัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวในการพัฒนาประเทศอย่างไร โดยเฉพาะ ลิซ่า-ภคมน หนุนอนันต์ สส.หญิงแกร่ง อายุ 35 ปี โชว์ฝีมือซักฟอกผู้นำประเทศว่าขาดความรู้และความสามารถ โดยเฉพาะเรื่องการตอบคำถามกับสื่อมวลชนที่ฟังแล้วดูไม่มีกึ๋นเสียเลย

ชาวเน็ตจึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไม “ภคมน” ถึงมีฝีมืออภิปรายเฉียบคมขนาดนี้ ทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่ได้มีตำแหน่งระดับบิ๊กบอสภายในพรรคแต่อย่างใด เดอะไทยเกอร์ขอเกาะแสเปิดประวัติ “ลิซ่า ภคมน” ถึงเส้นทางชีวิตก่อนกลายเป็นนักการเมืองว่าพบเจอสิ่งใดมาบ้างแบบละเอียดยิบ

“ลิซ่า ภคมน” ชีวิตส่วนตัวที่ไม่ธรรมดา

ภคมน หนุนอนันต์ มีชื่อเล่นว่า ลิซ่า พื้นเพเป็นคนจังหวัดพัทลุง เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวารสารศาสตร์ (วิทยุและโทรทัศน์) จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งช่วงที่พึ่งเรียนจบใหม่ ๆ (2553) เธอมีโอกาสไปทำงานเคเบิลทีวีแห่งหนึ่งก่อนเข้า Voice TV จากนั้นได้ไปทำสกู๊ปนักโทษการเมืองจนเริ่มมีคนจำได้ในฐานะผู้สื่อข่าวของช่อง

กระทั่งเกิดรัฐประหารปี 2557 “ภคมน” ตัดสินใจลาออกจากวงการและมาทำงานร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อตั้ง (2561) ในตำแหน่ง ประสานงานสื่อ รับผิดชอบการทำงานต่าง ๆ ของกองโฆษกพรรคฯ โดยมี ตี้-อนุธีร์ เดชเทวพร เพื่อนที่เคยอยู่ Voice TV ด้วยกันโทรมาชวนไป แม้ตอนแรกจะห่วงธุรกิจแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามอยู่ก็ตาม

บทบาทในฐานะ สส. ครั้งแรกของ “ภคมน”

ภายหลังจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ “ภคมน” ยังคงสานต่อหน้าที่เดิมในพรรคก้าวไกล จนเดือนมิถุนายน 2566 เจ้าตัวได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคฯ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือการเป็นกระบอกเสียงให้กับบุคลากรในวงการสื่อสารมวลชน และผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สื่อมวลชนฉบับของพรรคก้าวไกล ร่างกฎหมายนี้มีแนวคิดหลักในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของสื่อ จากการถูกปิดกั้นไปสู่การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร รวมถึงการยกระดับสวัสดิการและความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน

ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 66 ภคมนได้รับเลือกให้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 39 โดยมีส่วนร่วมเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน แถมยังดำรงตำแหน่งโฆษกของคณะนี้ด้วย

ภาพจาก Pukkamon Nunarnan – ภคมน ลิซ่า หนุนอนันต์

อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นถึงตัวแทนประชาชนในสภาฯ แต่ภคมนยังคงปรากฏในหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง เพื่อเรียกร้องเสรีภาพของการเผยแพร่ข้อมูลและความยุติธรรมทางสังคม โดยมุ่งเน้นเรื่องการเป็นกระเป็นกระบอกเสียงให้คนไทยได้รับรู้ความจริงจากทักษะด้านสื่อสารมวลชนที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิต.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง