หญิงอังกฤษ จบชีวิตตัวเอง รอผ่าตัด 15 เดือนไม่ไหว ญาติประณาม ระบบสาสุขล้มเหลว

หญิงอังกฤษ จบชีวิตตัวเอง หลังรอผ่าตัดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นาน 15 เดือน ครอบครัวจวกระบบสาธารณสุข “น่าอับอาย”
โชคดีที่ไทยมีระบบบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค เจอหมอง่าย แต่ตะวันตกหลายประเทศไม่ง่ายแบบนั้น นางไทน์ หญิงวัย 35 ปี อดีตนางพยาบาล ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และรอคอยการผ่าตัดนานถึง 15 เดือน โดยครอบครัวได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความล่าช้าของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ว่า “น่าอับอาย”
นางไทน์ จากเมืองบาธเกต เวสต์โลเธียน ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทรมานจากอาการป่วยเรื้อรัง แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัย จนกระทั่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ระยะที่ 4 อวัยวะภายติดกับผนังมดลูก
อาการที่เป็นหนักมาก กระทบการใช้ชีวิตประจำวัน ขนาดที่แค่เดินหรือก้มตัวก็ยังลำบาก เธอรอคิวผ่าตัดนานถึง 15 เดือนในระบบ NHS แต่เคราะห์ซ้ำ สุดท้ายโรงพยาบาลแจ้งว่าคิวถูกเลื่อนไปอีก 18 เดือน!
เมื่อหมดหวังกับชีวิต นางไทน์จึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว หลังเขียนจดหมายลาครอบครัว เอเลน วัตสัน ผู้เป็นแม่ ถึงกับระเบิดอารมณ์กับสื่อว่า “ฉันรับไม่ได้กับ NHS พวกเขาไม่คิดจะเร่งคิวผ่าตัดให้ลูกฉันเลย ลูกฉันเจ็บปวดมาก… ประจำเดือนก็มาแบบทรมาน”
ครอบครัวของเธอระดมทุนบริจาคให้องค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคนี้ และตั้งกลุ่มช่วยเหลือชื่อ “นิโคลา” ขึ้นมา จูน สไมลี ญาติของนางไทน์บอกว่า เธอต้องการสร้าง “มรดก” เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ลูกพี่ลูกน้อง และเป็นที่รวมตัวของผู้หญิงที่เผชิญชะตากรรมเดียวกัน กลุ่มนี้จัดประชุมที่ศูนย์ Jim Walker Partnership Centre ดำเนินการโดยอาสาสมัคร
ด้าน ดร. เทรซี กิลลีส์ ผู้อำนวยการทางการแพทย์ NHS Lothian กล่าวแสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือภาวะที่เนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตนอกมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน และอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์
ข้อมูลจากองค์กรการกุศล Endometriosis UK พบว่า ผู้หญิงต้องรอวินิจฉัยโรคนี้เฉลี่ยถึง 9 ปี และผู้ป่วยมักถูกมองข้ามจากบุคลากรทางการแพทย์ ปัจจุบันมีผู้หญิงกว่า 630,000 คนที่รอคิวตรวจนรีเวชอยู่
เรื่องราวของ ราชิดา อานิมาชุน วัย 26 ปี ก็สะท้อนปัญหาเดียวกัน เธอต้องรอถึง 14 ปี กว่าจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ ทั้งที่เธอเจ็บปวดทรมานจนต้องหยุดเรียน “คนส่วนใหญ่มองว่าโรคนี้ก็แค่ปวดประจำเดือน แต่จริง ๆ มันส่งผลกระทบต่อชีวิตในทุกด้าน” ราชิดา กล่าว เธอต้องผ่าตัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง และอาการของเธอไม่ได้มีแค่ปวดท้อง แต่ยังมีอาเจียน เป็นลม ปวดตามตัว ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ และอีกมากมาย
ราชิดาถึงกับต้องเลื่อนสอบ หยุดเรียน และล้มเลิกการเรียนมหาวิทยาลัย เพราะโรคนี้ ทั้งที่ผู้หญิง 1 ใน 10 คนในสหราชอาณาจักรเป็นโรคนี้ แต่เกือบครึ่งยังไม่รู้ถึงอาการทั่วไปของโรคนี้ด้วยซ้ำ