สั่งย้าย “ผู้คุม” คู่กรณี “อดีตผู้กำกับโจ้” แม่ร้องเรียนกลั่นแกล้ง-ใช้ความรุนแรง

สั่งย้าย ผู้คุม คู่กรณี อดีตผู้กำกับโจ้ จนกว่าจะได้รับความชัดเจน หลังแม่ผู้ตายเขียนจดหมายร้องเรียนกลั่นแกล้งและใช้ความรุนแรง
จากกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ที่ผูกคอตายภายในห้องขัง หมายเลข 50 แดน 5 เรือนจำคลองเปรม โดยในเวลาต่อมา โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่หนังสือร้องเรียนจาก แม่ของอดีตผกก.โจ้ โดยเนื้อความยืนยันเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับลูกชายในระหว่างถูกคุมขังตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม มีคำสั่งให้ นายสิทธิพร พ้นจากการปฏิบัติรองหัวหน้างานควบคุมแดน 7 ไปประจำที่ส่วนบริหารทั่วไป โดยให้ย้ายจากในแดนออกนอกแดน จนกว่าจะทราบข้อเท็จจริงต่อการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ได้มีเอกสารร้องเรียนระบุว่า “ข้าพเจ้า : นางสาวจันทา อุทธนผล เกี่ยวข้องเป็น มารดาของนายธิติสรรค์ อุทธนผล
ด้วยข้าพเจ้าใคร่ขอร้องเรียนพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ควบคุมนายสิทธิพร แก้วคำบัง ซึ่งมีการกระทำอันส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และสิทธิขั้นพื้นฐานของนักโทษ นายธิติสรรค์ อุทธนผล อย่างร้ายแรง เพื่อให้การชี้แจงเหตุการณ์มีความชัดเจน ข้าพเจ้าขอแยกพฤติการณ์ออกเป็นสองช่วงเวลาดังต่อไปนี้
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปลายปี พ.ศ. 2567 (ประมาณเดือนตุลาคม – ธันวาคม)
เหตุการณ์เริ่มต้นจากนักโทษ นาย… ได้พูดใส่ร้าย นายธิติสรรค์ อุทธนผล กับเจ้าหน้าที่ควบคุมหลายคน ทำให้ผู้คุมหลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีกับนายธิติสรรค์และต่อว่านายธิติสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น บอกกับผู้คุมท่านหนึ่งว่านายธิติสรรค์เรียกเขาว่า “นายนอกแดน” โดยคำพูดดังกล่าว หมายถึงการพูดจาดูถูกและลดคุณค่าในตัวผู้คุม แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง ส่งผลให้นายธิติสรรค์ต้องชี้แจงเหตุการณ์ต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมท่านนั้น นอกจากนี้ นาย…ยังขู่จะทำร้ายร่างกายนายธิติสรรค์หลายครั้ง โดยนายธิติสรรค์คาดว่าสาเหตุที่นาย…ไม่พอใจน่าจะมาจากที่นายธิติสรรค์เคยขอร้องให้นาย…สูบบุหรี่ไกลจากพื้นที่ห้องนอนของตน เนื่องจากควันบุหรี่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของตน อย่างไรก็ตาม การขอร้องดังกล่าวดำเนินไปอย่างสุภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นพยาน
หลังจากมีการขอร้องเรื่องบุหรี่นั้น นาย…ได้กล่าวหาและหาเรื่องนายธิติสรรค์หลายครั้ง รวมถึงยุยงให้ผู้อื่นไม่ชอบ ผลจากคำกล่าวร้ายของนาย… ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุม นายสิทธิพร แก้วคำบัง เริ่มแสดงพฤติกรรมกลั่นแกล้งนายธิติสรรค์ ดังนี้ :
ด่าว่านายธิติสรรค์ด้วยถ้อยคำรุนแรง (โดยหลายครั้งจะเรียกเข้าไปในห้องส่วนตัว)
รื้อค้นสิ่งของส่วนตัวของนายธิติสรรค์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น รื้อเอกสารสำคัญทางคดี ทำให้เปียกน้ำและเสียหาย ทำให้เอกสารนั้นไม่สามารถใช้การได้
พยายามที่จะตั้งเรื่องเอาผิดและตำหนินายธิติสรรค์อย่างรุนแรงที่เขาซ่อมพัดลม แต่ข้อเท็จจริงคือผู้คุมอีกท่านหนึ่งเป็นคนนำพัดลมมาให้นายธิติสรรค์ซ่อม เนื่องจากว่าพัดลมมันเสีย นายธิติสรรค์จึงช่วยซ่อม
ยกตัวอย่างเหตุการณ์บางส่วนเพิ่มเติม ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567
1. เจ้าหน้าที่สิทธิพร แก้วคำบัง เข้ายึดเอกสารทางด้านคดีของนายธิติสรรค์ พร้อมบอกว่าเอกสารเหล่านี้ไม่สามารถเก็บไว้ได้ ต้องนำออกไปจากเรือนจำ แต่นายธิติสรรค์มีความจำเป็นต้องขึ้นศาลในวันถัดมา จึงทำให้เขาเกิดความกังวลเป็นอย่างมาก กลัวว่าจะไม่มีข้อมูลที่จะนำไปสู้คดีเมื่อขึ้นศาล และจะทำให้แพ้คดี จึงปฏิเสธที่จะนำเอกสารออก และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่สิทธิพรว่า “นักโทษมีสิทธิในการเก็บรักษาเอกสารทางด้านคดีไว้กับตนเอง ภายใต้ พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560” ทำให้เจ้าหน้าที่สิทธิพร ตำหนินายธิติสรรค์อย่างรุนแรง
2. นายธิติสรรค์มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งเป็นมานานก่อนที่จะเข้ารับโทษในเรือนจำ โดยนายธิติสรรค์จำเป็นต้องทานยาเป็นประจำทุกวัน โดยอาการดังกล่าวได้มีใบรับรองแพทย์ระบุให้หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและให้ใช้พัดลมในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของนายธิติสรรค์อย่างร้ายแรง แต่เจ้าหน้าที่สิทธิพร กลับปฏิเสธใบรับรองแพทย์และยื่นเงื่อนไขให้นายธิติสรรค์ต้องขอใบรับรองใหม่ และเข้ายึดพัดลมที่ได้ขออนุญาตนำเข้ามาอย่างถูกต้องออกไป
3. นายธิติสรรค์เกิดอุบัติเหตุที่ดวงตา ขณะรับโทษอยู่ในเรือนจำ ทำให้การมองเห็นของเขาไม่ปกติ รูม่านตาข้างซ้ายขยายถึง 5 มิล ดวงตาไม่สามารถรับแสงแดดได้ ทำให้ต้องใส่แว่นตาดำไว้ตลอดเวลาที่ออกแสงแดด เพื่อป้องกันและฟื้นฟู ลดความเสี่ยงที่จะตาบอด แต่แม้จะมีใบรับรองแพทย์ยืนยันถึงความจำเป็นในการใช้งาน และทางแพทย์ได้กำชับมาว่าห้ามขยับตัวเยอะ เช่น เดินเร็ว วิ่ง หรือ ออกกำลังกาย รวมทั้งต้องใส่แว่นตาดำไว้ตลอด แต่เจ้าหน้าที่สิทธิพร ก็ได้พยายามยึดแว่นตาดำของนายธิติสรรค์ แม้จะมีใบรับรองแพทย์ยืนยันถึงความจำเป็นในการใช้งาน แต่เจ้าหน้าที่สิทธิพรก็ยืนยันว่าจะยึด เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนายธิติสรรค์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสุขภาพที่ไม่ดีอยู่แล้ว และเกรงกลัวว่าตาจะบอดไม่สามารถมองเห็นได้กลายเป็นบุคคลพิการตลอดชีวิต
ทำให้นายธิติสรรค์มีอาการทรุดหนัก ตัวสั่น ไม่สามารถพูดได้ โรคหัวใจกำเริบ จนต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในทันที และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สุขภาพของนายธิติสรรค์ถดถอยและแย่ลงเป็นอย่างมาก หมอที่โรงพยาบาลได้ปรับยารักษาโรคหัวใจของนายธิติสรรค์ให้แรงมากขึ้น เพื่อที่จะรักษาอาการให้คงที่ไม่กำเริบ การกินยาที่แรงมากขึ้นส่งผลต่อร่างกายของนายธิติสรรค์โดยตรง
2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 8 มกราคม 2568 :
นายธิติสรรค์พบว่า นาย… (นักโทษที่มีพฤติกรรมรุนแรง) กำลังเล่นเกมและดูสื่ออนาจารในพื้นที่ ซึ่งผิดระเบียบของเรือนจำ นายธิติสรรค์จึงพูดกับนาย…ว่า การกระทำเช่นนี้มีความผิด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่… ที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้น ด่าทอ และใช้ความรุนแรงต่อยและผลัก จนเกิดรอยช้ำขนาดใหญ่บนร่างกาย
เจ้าหน้าที่… ยังได้กล่าวหาว่านายธิติสรรค์พูดจาด่าทอพ่อแม่ของตน และท้าตีท้าต่อย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้บังคับบัญชาแดน (ผบ.แดน) เรียกสอบสวนจากพยานในที่เกิดเหตุ พบว่าคำกล่าวหาดังกล่าวของนาย…ไม่เป็นความจริง จึงสั่งให้ทั้งสองฝ่ายยุติเรื่องราว
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 :
เจ้าหน้าที่สิทธิพรยังคงดำเนินการกลั่นแกล้งนายธิติสรรค์ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่านายธิติสรรค์มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และให้นักโทษในความดูแลของตนเป็นพยานยืนยัน จากนั้นนายธิติสรรค์ถูกย้ายไปยังแดน 5 และถูกขังในซอยในวันเดียวกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมของนาย….
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงบางส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายธิติสรรค์ อุทธนผล ซึ่งถูกกระทำและกลั่นแกล้งจากนาย… อย่างต่อเนื่อง โดยการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจและสุขภาพของนายธิติสรรค์ นอกจากนี้ ข้าพเจ้าและครอบครัวของนายธิติสรรค์ยังได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นาย…มีพฤติกรรมกลั่นแกล้งและกดดันนักโทษคนอื่นในความดูแลด้วยลักษณะดังนี้อีกหลายท่าน ยกตัวอย่างเช่น
1. การทำร้ายร่างกายและกลั่นแกล้งนักโทษอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น การตบ หรือ ตีนักโทษ พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพกายและจิตใจของนักโทษในความดูแล ซึ่งขณะนี้ข้าพเจ้าทราบมาว่ามีนักโทษที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ตำรวจ เรื่องถูกทำร้ายจากนายสิทธิพร แล้ว
2. การยึดสิ่งของจำเป็นและกดดันอย่างรุนแรง ตัวอย่างกรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือ การกลั่นแกล้งนักโทษที่มีปัญหาด้านสุขภาพ โดยการยึดสิ่งของจำเป็น ส่งผลให้นักโทษคนดังกล่าวเกิดความเครียดสะสมจนตัดสินใจฆ่าตัวตาย
3. มีเหตุการณ์ที่นักโทษท่านหนึ่งได้มีปากเสียงกับนาย…ซึ่งเป็นนักโทษที่มีพฤติกรรมรุนแรง หลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่นักโทษท่านนี้เดินเข้าไปในห้องตัดผม ได้มีการจู่โจมเข้าตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่… และพบว่ามีบุหรี่อยู่ในห้องดังกล่าว เหตุการณ์นี้นำไปสู่การกล่าวหาว่า บุหรี่ดังกล่าวเป็นของนักโทษท่านนั้น โดยไม่มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ แม้ในข้อเท็จจริงบุหรี่นั้นมิใช่ของนักโทษผู้นี้แต่อย่างใด นักโทษถูกนำเอกสารมาให้ลงนาม โดยเข้าใจว่าเป็นเอกสารเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น จึงได้ลงลายมือชื่อ อย่างไรก็ตาม นักโทษมาทราบในภายหลังว่าเอกสารดังกล่าวมีการระบุข้อความที่เป็นลายมือเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้เขียนโดยตัวนักโทษเอง และไม่ทราบว่าเป็นลายมือของผู้ใด โดยเขียนว่า “ยอมรับข้อกล่าวหา” จากเหตุการณ์ดังกล่าว ปัจจุบันนักโทษท่านนี้ถูกแยกขังใน แดน 4 (ขังซอย) โดยทราบในภายหลังว่าการดำเนินการดังกล่าวเกิดจากการสั่งการของ นาย… ซึ่งมีความสนิทสนมกับ นาย… ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีการใช้อำนาจในทางมิชอบ เพื่อกลั่นแกล้งและเอื้อประโยชน์ให้นาย… และขณะนี้นักโทษท่านนี้อยู่ในระหว่างการอุทธรณ์จากข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จที่เกิดจากการกล่าวหาของนาย…
เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันอีกมากมายที่นาย… ได้กระทำหรือให้กลั่นแกล้งนักโทษ สะท้อนถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และขัดต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ควรปฏิบัติต่อผู้ต้องขังด้วยความเหมาะสมตามหลักจริยธรรม กฎหมาย มาตรฐานวิชาชีพ และบทบัญญัติทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อร้องเรียน
1. ขอให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่นาย… อย่างละเอียด และดำเนินการทางวินัยหากพบว่าเจ้าหน้าที่รายนี้กระทำผิดจริง
2. ขอให้มีการนำตัวนายธิติสรรค์ อุทธนผล ออกจากการถูกคุมขังพิเศษ (ขังซอย) ที่แดน 5 โดยเร็วที่สุด เนื่องจากการตั้งเรื่องกล่าวโทษดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้ง และไม่มีมูลความผิดที่สมเหตุสมผล
3. ขอให้แยกนาย… ออกจากพื้นที่ใกล้ชิดกับนายธิติสรรค์ อุทธนผล เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย การกลั่นแกล้ง หรือการกระทำใด ๆ ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยทางร่างกายของนายธิติสรรค์
4. ขอให้นายธิติสรรค์ อุทธนผล ได้รับการคุมขังในพื้นที่ที่ปลอดภัย โดยต้องเป็นแดนที่ไม่เสี่ยงต่ออันตรายจากการกลั่นแกล้ง รังแก หรือการทำร้ายร่างกายจากเจ้าหน้าที่อย่างนาย… หรือนักโทษรายอื่น เพื่อให้นายธิติสรรค์ สามารถดำรงชีวิตในเรือนจำได้อย่างปลอดภัย
ข้าพเจ้าและครอบครัวของ นายธิติสรรค์ อุทธนผล รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมการกลั่นแกล้งและการทำร้ายร่างกายของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ทำให้นายธิติสรรค์ อุทธนผล มีอาการทรุดหนักทั้งทางร่างกายและจิตใจ ข้าพเจ้าเกรงว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว อาจนำไปสู่ความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าขอความเมตตาและความกรุณาจากท่าน โปรดพิจารณาเรื่องนี้โดยเร่งด่วน เพื่อปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของผู้ถูกรังแก และเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในกระบวนการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดคำร้อง แม่ผกก.โจ้ ยันเหตุรุนแรงในเรือนจำ ถูกผู้คุม-ผู้ต้องขัง ทำร้ายก่อนเสียชีวิต
- ครอบครัว “อดีตผู้กำกับโจ้” ยืนยันไม่เผาศพ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
- เพจดังโพสต์ถึง “อดีตผู้กำกับโจ้” ไม่ใช่ตำรวจเลว แต่เป็นตำรวจพลาด