
เปิดตารางโอนเงินช่วยเหลือ 3 กลุ่มเปราะบาง เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยผู้สูงอายุและผู้พิการ เงินเข้าวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 พร้อมวิธีลงทะเบียน-หลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิ์
ทวนความจำพี่น้องประชาชน เปิดตารางจ่ายเงินช่วยเหลือ 3 กลุ่มเบาะบาง ได้แก่ เงินอุดหนุนบุตร, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการ ประจำเดือนนี้ ก่อนรับโอนเงินในวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง คนกลุ่มไหน ได้เงินเท่าไหร่ พร้อมข้อมูลเกณฑ์เงินโอนแบบขั้นบันได พร้อมไทม์ไลน์ล่วงหน้ารอบถัดไปแบบครบจบในที่เดียว
กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร มีนาคม 2568
เงินอุดหนุนบุตรจะโอนให้กับผู้ปกครองที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 600 บาท/เดือน/ครัวเรือน โดยมีหลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิรับเงินดังนี้
- ปกครองที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี โดยบิดา มารดา หรือบุคคลที่เลี้ยงดูเด็กที่อาศัยอยู่กับเด็ก
- มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือเอกชน
- ผูกบัญชีรับเงินกับพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน
วิธีลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด
- เตรียมแบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
- เตรียมแบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
- เตรียมสูติบัตรเด็กแรกเกิด
- เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
- เตรียมใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคน
- เตรียมสำเนาเอกสาร หรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อใช้แสดงตนของผู้รับรอง
เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อย ให้ผู้ปกครองไปยื่นการลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต จากนั้นลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก และยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD โดยจะได้รับเงินอุดหนุนตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนสำเร็จเท่านั้น จะไม่สามากขอย้อนหลังได้ ซึ่งสามารถเช็กสิทธิ์รับเงินได้ช่องทางข้างล่างนี้
1. เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน >> https://csgcheck.dcy.go.th
2. แอปพลิเคชันเงินเด็ก
3. แอปพลิเคชันทางรัฐ
กำหนดการเงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิด ปี 2568
- วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568
- วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
- วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568
- วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568
- วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568
- วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568
- วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568
- วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568
- วันพุธที่ 10 กันยายน 2568

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มีนาคม 2568
ยอดเงินเบี้ยยังชีพผู้พิการจะถูกโอนโดยกรมบัญชีกลางเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของผู้สูงอายุโดยตรงตามเกณฑ์ขั้นบันไดของผู้มีสิทธิ์ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน
- อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน
- อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน
- อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน
คุณสมบัติ-หลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิ์รับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ”
- มีสัญชาติไทย อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (สำหรับผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ 2569 คือ ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509
- ไม่เคยได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาก่อน
- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ-สิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
วิธีลงทะเบียนรับสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุที่ยังไม่เคยลงทะเบียน หรือผู้ที่กำลังจะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ (เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. 2509) สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ได้ 2 ช่องทางและเอกสารจำเป็นที่ต้องเตรียมดังนี้
- กรุงเทพมหานคร ที่สำนักงานเขต ซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ต่างจังหวัด ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้านตัวจริง (พร้อมสำเนา)
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (ออมทรัพย์) ตัวจริง พร้อมสำเนาหน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชี (สำหรับรับเงิน)
4. เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล, ทะเบียนสมรส, ทะเบียนหย่า และทะเบียนรับรองบุตรสำหรับผู้ประกันตนชาย
หมายเหตุ : กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มดังนี้ หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง), สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด
ปฏิทินการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2568
- วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม 2568
- วันพฤหัสบดี ที่ 10 เมษายน 2568
- วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2568
- วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน 2568
- วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม 2568
- วันศุกร์ ที่ 10 สิงหาคม 2568
- วันพุธ ที่ 10 กันยายน 2568

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ มีนาคม 2568
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เตรียมโอนเงินผู้พิการตามเกณฑ์อายุ โดยผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 800 บาท และผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน 1,000 บาท ภายในวันที่ 10 มี.ค. 68 ตามคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ที่ได้ลงทะเบียนดังนี้
- ต้องเป็นผู้พิการที่มีสัญชาติไทยและมีบัตรประจำตัวคนพิการ
- อาศัยอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
- มีหลักฐานขอรับเงินเบี้ยความพิการ และไม่อยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ
หากผู้พิการที่ประสงค์ยื่นขอรับเบี้ยผู้พิการ แต่ยังไม่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ ต้องเตรียมเอกสารเพื่อลงทะเบียน ได้แก่ บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้านตัวจริง และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร จากนั้นนำเอกสารไปยื่นที่ฝ่ายสังคมสงเคราะห์งานเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลศิริราช, ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้พิการสามารถยื่นคำร้องได้ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด หรืออำเภอ ที่มีศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จในโรงพยาบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
วิธีเช็กสิทธิ์รับเบี้ยคนพิการ 2568
- ติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวัน 24 ชั่วโมง
- ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300
- ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศ
- ติดต่อสอบถามศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศได้ที่ https://www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมบัญชีกลาง, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธ.ก.ส. จัดให้ เงินฝากทองพันชั่ง ฝาก 1 แสน รับดอกเบี้ยทันที 2% ต่อปี ถึง 31 มี.ค.นี้
- กนง.ลดดอกเบี้ย เหลือ 2.00% สู้สุดชีวิต หวังแก้เศรษฐกิจซบเซา
- ทีทีบี ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี ช่วยลดภาระการเงินให้ลูกค้า