ฟัง แพทองธาร ตอบกระทู้สดครั้งแรก รับปากสภา กดตัวเลขสูญเงินคอลเซ็นเตอร์ 50 ล้านเป็น 0 ไม่จบไม่เลิก
แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้สดครั้งแรก ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ รับปากกลางรัฐสภา แก้ปัญหาขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ยาเสพติด หล่นคำมั่นเด็ดขาด “ไม่จบไม่เลิก”
เวทีสภาฯ เดือด! หลังจากวันนี้ (27 ก.พ.) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขึ้นตอบกระทู้สดครั้งแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) กับประเด็นแก๊งคอลเซนเตอร์และยาเสพติดซึ่งกำลังเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนทั่วประเทศ โดยนายกฯ ให้คำมั่นชัดเจนว่า “ถ้าไม่จบ ไม่เลิกแน่นอน” พร้อมเผยมาตรการแก้ปัญหาที่รัฐบาลเดินหน้าเต็มกำลัง
สำหรับในที่ประชุมเมื่อช่วงเช้าโดยเริ่มมา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส. ราชบุรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ตั้งคำถามถึงมาตรการจัดการขบวนการคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหนัก ซึ่งนายกฯ แพทองธารได้ชี้แจงว่า ปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่ไทยแต่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลให้หลายคนหมดตัว บางคนถึงขั้นคิดสั้นหรือก่ออาชญากรรมเพราะหนี้สิน รัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
มาตรการเชิงรุกรัฐบาลเดินเครื่องเต็มสูบซึ่งทางน.ส.แพทองธาร เผยว่าตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลฯ (ดีอี) แบงก์ชาติ (ธปท.) กสทช. ปปง. ดีเอสไอ และตำรวจ ดำเนินการร่วมกันอย่างบูรณาการ รวมถึงการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในระดับรัฐบาลเพื่อสร้างแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว
ขณะเดียวกันมาตรการสำคัญที่รัฐบาลได้ดำเนินการแล้ว ได้แก่ ตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เปิดรับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง
- ปิดบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี ลดช่องทางฟอกเงินของแก๊งมิจฉาชีพ
- ยกระดับมาตรการเปิดบัญชีธนาคาร ป้องกันการใช้ข้อมูลปลอม
- ยกร่าง พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่มอำนาจให้หน่วยงานรัฐและกำหนดโทษสำหรับผู้ขายข้อมูลประชาชน
- สกัดกั้นขบวนการข้ามแดน
“แพทองธาร” ระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเด็ดขาดตามแนวชายแดน โดยหน่วยงานความมั่นคง ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมมือกันซีลพื้นที่ ปราบปรามการค้ามนุษย์ที่หลอกคนไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการตัดไฟฟ้าและทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับจีนและเมียนมาในระบบไตรภาคีเพื่อจัดการกับขบวนการเหล่านี้ให้สิ้นซาก
เสียงจากฝ่ายค้าน ต้องคุมเข้ม “ซิมผี-บัญชีม้า”
อย่างไรก็ดี นายอัครเดชเสนอแนะให้รัฐบาลออกมาตรการควบคุมการลงทะเบียน “ซิมม้า” และจำกัดวงเงินบัญชีธนาคารเพื่อลดความเสี่ยงในการฟอกเงิน ซึ่งแพทองธารรับปากว่าจะสั่งการให้ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทันที
ทั้งนี้ แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจต่อไปเตรียมลงพื้นที่สระแก้วตรวจเข้มมาตรการ ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เพื่อตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ เช่น การลดเสาส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ปราบปรามซิมบ็อกซ์ และการควบคุมไว-ไฟคอลลิ่งจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยยืนยันว่าปัจจุบันมูลค่าความเสียหายจากแก๊งคอลเซนเตอร์นั้น! ลดลงจากวันละ 100 ล้านบาท เหลือ 50 ล้านบาท และรัฐบาลจะเดินหน้ากดตัวเลขนี้ให้เป็นศูนย์ให้ได้
แพทองธารกล่าวอย่างหนักแน่นว่า ปัญหานี้มี “ผู้อิทธิพล” นักการเมือง และข้าราชการที่อยู่เบื้องหลัง ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นใคร ตำแหน่งสูงแค่ไหน ถ้าทำผิดก็ต้องถูกจัดการ
นายกฯ ทิ้งท้ายในฐานะผู้นำประเทศซึ่งมีหน้าที่ดูแลประชาชน และปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ตลอดจนยาเสพติดเป็นเรื่องที่กระทบชีวิตคนไทยโดยตรง ดังนั้น “ตราบใดที่ปัญหานี้ยังไม่หมดไป รัฐบาลจะไม่มีวันหยุดแก้ไข” อย่างแน่นอน
“จากการดำเนินการทั้งหมดที่กล่าวมาดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์และสิ่งที่รัฐบาลทำก็ได้ผลเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับความเสียหายเงินที่ถูกหลอก 100 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งปัจจุบันตัวเลขคือ 50 ล้านบาทต่อวัน ได้รับความช่วยเหลือบูรณาการ ดิฉันเชื่อมั่นว่าคอลเซ็นเตอร์ต้องหมดไปในเร็วัน เป็นประโยชน์อย่างมาก”
“พอเราทำสิ่งนี้แล้วเราต้องทำให้ครบให้หมด ถ้าไม่ไปทั้งราก มันก็จะไม่สามารถแก้ปัญาได้อย่างแท้จริง สุดท้ายนี้การแก้ปัญหาที่เป็นผลอย่างมาก คือ การทำลายฐานที่มั่นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยการตัดไฟและหยุดส่งน้ำมันในชายแดนเมียนมา ดิฉันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แล้วก็คิดว่าต้องการสั่งการเพื่อให้เกิดผลในทันที แล้วก็เกิดผลอย่างมากจริงๆ ทั้งตัวเลขทั้งอะไรจะเห็นได้ว่าลดลงเป็นอย่างมาก ย้ำว่าเราจริงจังกับเรื่องนี้ พอประเทศเพื่อนบ้านก็จริงจรังด้วย แล้วการขนส่งน้ำมันต่างๆ พอเป็นไปได้ยาก ก็ทำให้ต้นทุนของทางนั้น สแกมที่จะหลอกประชาชนก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย อันนี้ก็ถือว่ารัฐบาลได้รับความร่วมมือแล้วก็ทำให้เห็นผลเป็นที่ประะจักษ์ค่ะ”
ทั้งนี้ในวันเดียวกันฝ่ายค้านซึ่งนำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา อาคารรัฐสภาด้วย.
ขอบคุณคลิป : สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผลวิจัยเผย ปชช. เชื่อข้อมูลรัฐบาลมากกว่า ในการอภิปรายงบประมาณ 68
- หนุ่มเมืองจันท์ ถาม 2 ข้อ ฟัง บรู๊ค ดนุพร อภิปราย ทำไม พท. ปล่อยหลุดประโยคนี้ออกมา
- ร้องสอบ บิ๊กป้อม ทำหน้าที่ สส. หรือไม่ หลังไม่ค่อยเห็นเข้าประชุมสภา
ข่าวล่าสุด
