ตร.ไซเบอร์ อายัดบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกอดีตข้าราชการครู สูญ 2 ล้านได้แล้ว
ตำรวจไซเบอร์ จบงานไว อายัดบัญชีปลายทาง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกดูดเงิน อดีตข้าราชการครู วัย 85 ปีสูญ 2 ล้าน เตือนปชช.อย่าหลงเชื่อกลอุบาย ย้ำจนท.ไม่โทร-วิดีโอคอลแน่นอน
ความคืบหน้ากรณี หลานชายพาคุณย่า ซึ่งเป็น อดีตข้าราชการครูเกษียณอายุราชการ วัย 85 ปีเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้วิดีโอคอล ก่อนสูญเงิน 2 ล้านบาทไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ล่าสุด (5 ก.พ. 68) ทางเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาแจ้งความคืบหน้าถึงคดีดังกล่าว ระบุว่า ตร.ไซเบอร์ ได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารปลายทางของมิจฉาชีพแล้ว โดยพบว่ามีการโอนเงิน 2-3 ทอดกว่าจะถึงปลายทาง ซึ่งสามารถระงับเงินจำนวนดังกล่าวไว้ได้ แต่อาจจะถูกหักค่าธรรมเนียม 200 บาท และต่อไป ก็จะทำหมายอายัด เพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย
อายัดทัน! ตร.ไซเบอร์ อายัดบัญชีธนาคาร หลอก ‘คุณยายวัย 85 ปี’ ได้ทันเกือบทั้งหมด คุณยายดีใจ ได้เงินคืน
วันที่ 5 ม.ค.68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดความคืบกรณีคุณยายวัย 85 ปี ถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน 2 ล้านบาท ว่า ตร.ไซเบอร์ได้โอนสำนวนคดีมาจาก สภ.ปากเกร็ด ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความไว้เมื่อวัน 4 กุมภาพันธ์ในช่วงเที่ยงหลังเกิดเหตุ โดยมอบหมายให้ทาง พล.ต.ต.ศิริวัฒร์ ดีพอ รรท.ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รรท.ผบก.สอท.2 เป็นผู้รับผิดชอบ และทำการสืบสวนสอบสวนติดตามเงินของผู้เสียหาย
หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง ตนได้ให้ทีมประสานงานกับธนาคาร เพื่อตรวจสอบ และระงับทางธุรกรรมต่อจากที่ทาง สภ.ปากเกร็ดทำไว้เบื้องต้น โดยพบว่ามีการโอนเงิน 2-3 ทอด ไปถึงธนาคารปลายทาง เบื้องต้นทางตำรวจร่วมกับธนาคาร สามารถระงับที่ธนาคารปลายทางได้ โดยได้รับการประสานกลับมาจากธนาคารปลายทางว่า สามารถระงับเงินจำนวนดังกล่าวไว้ได้ แต่อาจจะถูกหักค่าธรรมเนียม 200 บาท และต่อไป ก็จะทำหมายอายัด เพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย
ในส่วนของการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า หรือผู้ร่วมกันกระทำความผิด อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิด ส่วนชื่อของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังที่นำมาแอบอ้าง เชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลที่มีอยู่จริง เพราะเป็นรูปแบบเดิมของมิจฉาชีพที่มักจะอ้างชื่อเจ้าหน้ารัฐ
ในส่วนของกรณีนี้ คุณยายถูกหลอกด้วยวิธีการโทรศัพท์มาหาในช่วงเช้า ขณะที่คุณยายกำลังตื่น และอาจจะยังไม่มีสติในพูดคุย ปกติแล้วลูกหลานคุณยาย เคยบอกไว้ว่า ไม่ให้คุยกับเบอร์แปลก หลังจากนั้นมิจฉาชีพอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจากการกระทรวงการคลัง บอกกับคุณยายว่า คุณยายมีพันธบัตรสลากธนาคารออมสินอยู่ 4 ล้านบาท แล้วอ้างว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำให้ถูกต้อง หรือทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 2 ล้านบาท ก็จะถูกเก็บภาษี
จากนั้นหลอกให้คุณยายพูดคุยโดยการวิดีโอคอลร่วม 1 ชั่วโมง และล่อลวงให้คุณยายโหลดแอพพลิเคชั่นธนาคารมาไว้ในมือถือ จากนั้นก็สอนให้คุณยายเข้าไปในแอพธนาคาร และทำธุรกรรม รวมถึงการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ก่อนจะดูดเงินออกจากธนาคารคุณยายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท โดยคุณยายไม่รู้ตัวว่า สิ่งที่มิจฉาชีพให้ทำนั้น คือการยืนยันใบหน้าในแอพธนาคาร
จึงอยากฝากเตือนถึงคนทุกกลุ่มว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่มีทางที่จะโทรศัพท์และวิดีโอคอลไปหาประชาชน หรือส่งข้อความผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ไปหาประชาชนอย่างแน่นอน จึงขอให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อาจจะรู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ เพราะไม่ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยี
อีกทั้งยังของประชาสัมพันธ์ ให้คนอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปโหลดแอปพลิเคชพพ “Senior’s Community Cyber Police Club เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพในการที่จะถูกหลอก
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีคุณยายนี้ จะรีบดำเนินการนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้เร็วที่สุด ซึ่งหลังจากที่ผู้เสียหายคือคุณยายวัย 85 ปีทราย ก็ดีใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งฝากไปถึงประชาชน หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับตนเองให้รีบไปแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อ ให้ตำรวจประสานงานไปยังธนาคาร และรีบอายัดเงินไว้ได้ทัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อดีตข้าราชการครู สูญเงิน 2 ล้าน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้วิดีโอคอล
- แม่ร้อง ลูกชายถูกสาวสวยมอมยา ฟื้นมาอีกทีถูกบังคับทำคอลเซ็นเตอร์
- แพทองธาร ย้ำเยือนจีน คุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีความคืบหน้าแน่นอน
อ้างอิงจาก : FB สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว, Tassapol Titsathian