
คลังเดินหน้า มาตรการเก็บภาษีคาร์บอนจากน้ำมันเชื้อเพลิง หวังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยืนยัน ไม่กระทบราคาขายปลีกน้ำมัน ประชาชนไม่เดือดร้อน สร้างโอกาสเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
วันนี้ 21 มกราคม 2568 “นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการนำกลไกราคาคาร์บอนมาใช้ในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดรับกับเป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2065 รวมถึงช่วยสนับสนุนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สำหรับรายละเอียดของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญดังนี้
1. สินค้าที่จะกำหนดกลไกราคาคาร์บอน ได้แก่ น้ำมันเบนซินและน้ำมันที่คล้ายกัน แก๊สโซฮอล์ประเภทต่าง ๆ น้ำมันก๊าดและน้ำมันที่จุดให้แสงสว่างที่คล้ายกัน น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น น้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ไบโอดีเซลประเภทต่างๆ LPG ก๊าซโพรเพรนและก๊าซที่คล้ายกัน น้ำมันเตาและน้ำมันที่คล้ายกัน
2. ราคาคาร์บอนเบื้องต้น กำหนดไว้ที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า
3. การกำหนดกลไกราคาคาร์บอน นำราคาคาร์บอนที่กำหนด คูณกับค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Factor) ของน้ำมันแต่ละชนิด เพื่อนำมาคำนวณในโครงสร้างภาษีสรรพสามิต
นายเผ่าภูมิ เน้นย้ำว่า มาตรการนี้เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างภายในภาษีสรรพสามิต โดยมีการคำนวณราคาคาร์บอนรวมอยู่ในภาษีน้ำมัน และยืนยันว่า การกำหนดราคาคาร์บอนนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของภาคอุตสาหกรรม และไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใด ประชาชนทั่วไปจึงไม่ต้องกังวลเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
กระทรวงการคลัง เล็งเห็นว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และน้ำมัน เป็นต้นทางของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึงร้อยละ 70 ของทั้งหมด จึงให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ และกำหนดให้มีกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต
นอกจากนี้ ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวยังสร้างโอกาสในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เตรียมความพร้อมและสร้างมาตรฐานสากลให้กับผู้ประกอบการไทย ที่จะส่งสินค้าไปยังประเทศที่มีการบังคับใช้มาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) โดยสามารถนำราคาคาร์บอนนี้ไปใช้ในกรณีที่จะมีการจัดเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาคาร์บอนจากสินค้าที่จะนำเข้าไปในประเทศนั้น ๆ ได้ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็กด่วน ซื้อสินค้าเหล่านี้ ไม่ได้เงินคืนภาษี Easy E-Receipt 2568
- เล็งเก็บ ภาษีความเค็ม เริ่มปี 68 หวังลดโซเดียมคนไทย หลังเกินมาตรฐาน 2 เท่า
- ครม. เคาะเลื่อน ภาษีความหวาน เฟส 3 ช่วยค่าครองชีพ ปชช.