4 ความผิดปกติบนใบหน้า บ่งบอกว่าเซลล์มะเร็งกําลังจะ “กิน” ปอดจนหมด
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผย 4 ความผิดปกติบนในหน้า บ่งบอกได้ว่าในตอนนี้เรากำลังโดน เซลล์มะเร็ง กัดกินปอดจนหมด
เรื่องดังกล่าวมาจากมณฑลกวางุต้ง ประเทศจีน เมื่อคุณป้าโง วัย 63 ปีพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดหลังจากไปตรวจอาการปวดหัว โดยเธอเริ่มมีอาการปวดหัวผิดปกติมาตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อน เช่นเดียวกับอาการแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย และไอแห้งๆ ตอนกลางคืน คุณป้าคิดว่าเป็นเพราะอายุมากและนอนไม่หลับ จนกระทั่งอาการปวดหัวรุนแรงขึ้น เบื่ออาหารและนอนไม่หลับ จึงยอมไปหาหมอ
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ หมอบอกว่าคุณป้าเป็นมะเร็งปอดและได้แพร่กระจายไปหลายที่ รวมถึงสมองด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณป้าทรมานกับอาการปวดหัวไม่หยุด หมอของคุณป้าโงยังเตือนว่า นอกจากอาการทั่วไปอย่างไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบากแล้ว มะเร็งปอดยังอาจทำให้เกิดความผิดปกติอื่นๆ อีกมากมาย โดยมี 4 อาการผิดปกติที่เกี่ยวกับบริเวณศีรษะและใบหน้าที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ได้แก่
1.ปวดหัวเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาการปวดหัวรุนแรงและยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไปอย่างการทายาแก้ปวด อาจเป็นสัญญาณเตือนแรกของมะเร็งปอด ตามข้อมูลของสมาคมมะเร็งวิทยาคลินิกอเมริกา (ASCO) ผู้ป่วยมะเร็งปอดราว 10% มีการแพร่กระจายไปที่สมอง
เมื่อมะเร็งแพร่กระจาย มันจะกดทับเส้นประสาทและเส้นเลือด ทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรง หากมีอาการนี้ร่วมกับคลื่นไส้ ไข้เรื้อรัง หรือการเปลี่ยนแปลงของสติสัมปชัญญะ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที แม้แต่มะเร็งปอดที่ยังไม่แพร่กระจายก็อาจทำให้ปวดหัวได้ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เพราะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปสู่สมอง
2.หูอื้อ และการได้ยินลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
อาการหูอื้อที่ไม่ทราบสาเหตุหรือเป็นเรื้อรังอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด โดยเฉพาะเมื่อก้อนมะเร็งแพร่กระจายไปที่สมองหรือส่งผลต่อเส้นเลือดใกล้หูชั้นใน จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (สหรัฐอเมริกา) มะเร็งปอดอาจทำให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น หรือรุกล้ำเส้นประสาทที่เกี่ยวกับหู ทำให้เกิดอาการหูอื้อเรื้อรัง อาการนี้มักมาพร้อมกับอาการเสียการทรงตัวหรือปวดศีรษะ
นอกจากหูอื้อแล้ว การได้ยินที่ลดลงก็อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยมะเร็งปอด โดยมักจะเป็นการสูญเสียการได้ยินข้างเดียวและไม่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายนอก รายงานจากวารสารการแพทย์ระบบหายใจ Lancet ระบุว่า มะเร็งปอดที่แพร่กระจายไปยังสมองหรือเส้นประสาทการได้ยินอาจทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินเฉพาะที่ได้
3.กลิ่นปากและเสียงเปลี่ยนแปลงเรื้อรัง
กลิ่นปากและการเปลี่ยนแปลงของเสียงอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปอด กลิ่นปากจะเกิดขึ้นเมื่อก้อนมะเร็งในปอดอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียและทำให้เกิดกลิ่นเหม็น อาการนี้มักพบเมื่อโรคลุกลามและปัญหาระบบหายใจชัดเจนขึ้น จากการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่ากลิ่นปากอาจเป็นสัญญาณเตือนแรกของมะเร็งปอด
การเปลี่ยนแปลงของเสียง เช่น เสียงแหบหรือเสียงอ่อนแรง เกิดขึ้นเมื่อก้อนมะเร็งรุกล้ำหรือกดทับเส้นประสาทกล่องเสียง เมื่อโรคลุกลามไปถึงบริเวณคอหรือลิ้น ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าเสียงของตนเองเปลี่ยนไป ตามข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงของเสียงเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลาม
4.หนังตาบวม และการมองเห็นผิดปกติ
อาการหนังตาบวมและการมองเห็นที่แย่ลงก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งปอดได้เช่นกัน หนึ่งในสาเหตุของหนังตาบวมคือกลุ่มอาการฮอร์เนอร์ ซึ่งเกิดจากมะเร็งชนิดแพนโคสต์ที่ยอดปอดรุกล้ำเส้นประสาทซิมพาเธติก ทำให้เกิดอาการหนังตาตกข้างเดียว ม่านตาหดเล็ก และเหงื่อออกน้อยลง ตามข้อมูลของสมาคมมะเร็งอเมริกา ผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กราว 20% อาจพบอาการนี้
นอกจากนี้ หนังตาบวมอาจเกิดจากก้อนมะเร็งกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ ทำให้การไหลเวียนเลือดติดขัด ส่งผลให้หนังตาบวมและการมองเห็นแย่ลง หรือเมื่อมะเร็งปอดแพร่กระจายไปที่สมอง อาจทำให้เกิดอาการตาบวม หนังตาตก ปวดตา เห็นภาพซ้อน หรือสูญเสียการมองเห็นข้างเดียว
อย่างไรก็ตาม อาการผิดปกติเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งปอดเสมอไป ที่ดีที่สุดคือควรไปพบแพทย์ตรวจให้เร็วที่สุดหากมีอาการเหล่านี้
อ้างอิง : soha.vn
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เงิบ! ว่าที่ รมต.กลาโหม ยุคทรัมป์ ไม่รู้จัก ASEAN ตอบไม่ได้มีกี่ประเทศ
- ฮามาส-อิสราเอล ยุติข้อตกลงหยุดยิง เตรียมปล่อยตัวประกัน สิ้นสุดศึก 15 เดือน
- จับได้เมียแอบแซ่บกับชู้จนท้อง แต่ผัวต้องจ่ายค่าชดเชย เพราะเอกสารการหย่าไม่สมบูรณ์