อนาคตดับวูบ นักกีฬาดาวรุ่ง ก่อเหตุแทงแม่และแฟน ก่อนปาดคาตัวเองหวังปลิดชีพหนีความผิด สุดท้ายรอด ติดคุกตลอดชีวิต
ผู้ก่อนเหตุในครั้งนี้คือ สเปนเซอร์ รอสส์ เพียร์สัน อดีตนักกีฬาดาวรุ่ง วัย 20 ปี โดยเจ้าตัวแทงอดีตแฟนสาวและแม่ของเธออย่างบ้าคลั่งในลานจอดรถที่รัฐฟลอริดาเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ก่อนที่จะกรีดคอตัวเอง ยังคงมีรอยแผลเป็นจากการพยายามฆ่าตัวตายให้เห็นขณะที่เขาปรากฏตัวในศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษา
และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพียร์สัน ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หลังจากที่เขารับสารภาพในข้อหาพยายามฆาตกรรมและทำร้ายร่างกายสาหัสเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยครอบครัวของเขาโทษว่าเป็นเพราะการบาดเจ็บที่ศีรษะที่เขาได้รับตั้งแต่สมัยเป็นนักกีฬาฟุตบอลดาวรุ่งในโรงเรียนมัธยมที่ทำให้เขาก่อเหตุโจมตีครั้งนี้
เพียร์สัน ถูกจับกุมในเดือนมิถุนายน 2023 หลังจากแทงอดีตแฟนสาวของเขา แมดิสัน เชมิตซ์ อายุ 17 ปี และแม่ของเธอ แจ็คลิน โรเก้ รวมถึงคนที่พยายามเข้าไปห้ามที่อยู่ด้านนอกร้านอาหารในพอนเต เวดรา บีช ซึ่งขณะนั้น เพียร์สัน อายุเพียงแค่ 18 ปี และได้คอยสะกดรอยตาม เชมิตซ์ และมีรายงานว่าจากการโจมตีครั้งนี้ทำให้เธอเป็นอัมพาตตั้งแต่หน้าอกลงไป
วิดีโอวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์โจมตีแสดงให้เห็นแม่และลูกสาวพยายามออกจากร้านอาหาร ในขณะที่เพียร์สันเดินตามพวกเขา ในที่สุดเขาก็วิ่งพุ่งเข้าหา เชมิตซ์ และแทงเธอ 15 ครั้ง โรเก้พยายามต่อสู้กับผู้โจมตีลูกสาวของเธอ และถูกแทงที่หน้าผากและขา ขณะที่คนที่เข้าไปช่วยก็ถูกฟันด้วยเช่นกัน แต่สามารถหยุดการโจมตีได้ หลังจากนั้นเพียร์สันได้กรีดคอตัวเอง ก่อนที่จะถูกจับกุม
ทั้ง เชมิตซ์ และ เพียร์สัน รวมถึงพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย ได้เบิกความในระหว่างการพิจารณาคดีที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ในระหว่างการเบิกความของเธอ เชมิตซ์กล่าวว่าเธอคิดถึงช่วงเวลานี้มาตลอดนับตั้งแต่การโจมตีที่น่าสยดสยองครั้งนั้น โดยเธอบอกว่า “วันที่ 3 มิถุนายน 2023 เป็นวันที่เลวร้ายและบอบช้ำที่สุดในชีวิตของฉันอย่างไม่ต้องสงสัย และฉันจำได้ทุกวินาทีของมัน”
“ท่านผู้พิพากษา เด็กหญิงอายุ 17 ปีไม่ควรต้องรู้สึกถึงการถูกแทง ท่านผู้พิพากษา ฉันไม่ควรต้องจดจำความรู้สึกที่ร่างกายถูกแทงด้วยมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า… ฉันจำช่วงเวลาที่ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นอัมพาตได้ ฉันจำได้ว่าฉันหายใจลำบากและพยายามเรียบเรียงคำพูด”
เพียร์สัน เองก็ได้ขึ้นให้การด้วย โดยกล่าวขอโทษต่อศาลว่าเขาได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ถึงสามคน โดยกล่าวว่า “ผมนึกถึงความผิดร้ายแรงที่ผมก่อขึ้นตลอดเวลา มันวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่เคยหายไป และคงจะเป็นแบบนี้ตลอดไป… ผมคงไม่มีวันเข้าใจได้เลยว่าสิ่งที่ผมทำนั้นสร้างความเจ็บปวดให้พวกเขามากแค่ไหน และผมได้สร้างผลกระทบเลวร้ายต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผมเข้าใจดีว่าทำไมพวกเขาถึงโกรธและเกลียดผมขนาดนี้”
ส่วน แดเนียล เพียร์สัน พ่อของผู้ก่อเหตุ ก็ได้เบิกความถึงอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของลูกชายที่สะสมมาจากการเล่นฟุตบอลหลายปี และเล่าว่าเขากับภรรยาเคยพบลูกชายพยายามฆ่าตัวตายหลังจากที่เลิกกับเชมิตซ์
พ่อที่กำลังเศร้าโศกได้กล่าวขอโทษเหยื่อทั้งสามคน โดยพูดกับอดีตแฟนสาวของลูกชายว่า “แมดิสัน หนูเป็นเด็กที่น่ารักมาตลอด เป็นคนที่มีเสน่ห์และอยู่ด้วยแล้วมีความสุข หนูดีกับครอบครัวเราเสมอมา ลุงขอโทษจริงๆ ที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับหนู ลุงคิดถึงหนูทุกวัน สวดมนต์ให้หนูทุกวัน หนูเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม เป็นคนที่สวยงามทั้งกายและใจ ลุงรู้ดี ลุงขอโทษ”
แพทย์ที่มาให้การต่อศาลเปิดเผยว่า ผลเอ็มอาร์ไอของเพียร์สันแสดงให้เห็นร่องรอยการบาดเจ็บที่ศีรษะหลายครั้ง คล้ายกับที่พบในนักกีฬาเอ็นเอฟแอล และชี้ว่าการบาดเจ็บที่สมองนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีแนวโน้มที่จะก่อเหตุรุนแรง
ขณะเดียวกัน แม่ของเชมิตซ์ก็ได้ขึ้นให้การ โดยบอกกับเพียร์สันว่า “นายได้ตัดสินให้แมดิสันติดคุกตลอดชีวิตเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2023 ดังนั้นมันก็สมควรแล้วที่นายจะได้รับโทษแบบเดียวกัน”
แม้ว่าทีมทนายของเพียร์สันจะขอให้ศาลพิจารณาลงโทษจำคุก 12 ปี ตามด้วยการคุมประพฤติและการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตอีก 15 ปี แต่ผู้พิพากษา อาร์. ลี สมิธ ตัดสินใจลงโทษที่หนักกว่านั้น
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 3 มิถุนายน 2023 นั้น เป็นเรื่องที่น่าสยดสยงอย่างยิ่ง จำเลยได้ก่อเหตุโจมตีเด็กสาวอายุ 17 ปีอย่างโหดร้าย… ทั้งที่เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น เธอยังพยายามช่วยชีวิตเขาตอนที่เขาพยายามฆ่าตัวตาย คนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ กลับถูกเขาทำร้ายอย่างรุนแรงและป่าเถื่อน” ผู้พิพากษา กล่าว
ผู้พิพากษาชี้ให้เห็นว่าผลกระทบอันยาวนานจากอาชญากรรมของเพียร์สันนั้น ทำให้ การลดหย่อนโทษใดๆ ที่ต่ำกว่าแนวทางการลงโทษที่กำหนดไว้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาลัย จอห์น ทินนิสวูด ชายอายุมากที่สุดในโลก เสียชีวิตแล้ว ในวัย 112 ปี
- ICC ออกหมายจับเอาผิด มินอ่องหล่าย ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
- ระทึก นอมินีสมาชิกรัฐบาลทรัมป์ ถูกขู่วางระเบิด ยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้
ข่าวล่าสุด
