เปิดประวัติ ดาว พี่สาวเมีย ทนายตั้ม ย้อนไทม์ไลน์ ก่อนถูกจับคดีฟอกเงิน ฉ้อโกง 39 ล้าน
ประวัติ “ดาว-ปิณฑิรา การิวัลย์” พี่สาวภรรยาทนายตั้ม หลังถูกตำรวจจับข้อหาร่วมกันฟอกเงิน คดีเจ๊อ้อย 39 ล้าน สนธิแฉไทม์ไลน์ ตั้งข้อสงสัยซุกเงินเทา?
จากกรณีตำรวจเข้าจับกุม นางสาวปิณฑิรา การิวัลย์ หรือ ดาว พี่สาวของภรรยา “ทนายตั้ม” ตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน ปมคดีฉ้อโกง 39 ล้านบาทของเจ๊อ้อย เนื่องจากพบพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่าผู้ต้องหาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวคดี ก่อนนำตัวมากองที่ปราปเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
อย่างไรก็ดี สังคมออนไลน์ได้ให้ความสนใจในตัว “ดาว” ว่าเป็นใครมาจากไหน เนื่องจากตัวละครในคดีฉ้อโกงของเจ๊อ้อยนั้น หลัก ๆ จะมีแค่ทนายตั้ม-ภรรยา และคนใกล้ชิดรายอื่น แต่ชื่อของพี่สาวภรรยาคนนี้กลับไม่คุ้นหู ทีมงานไทยเกอร์จึงขอย้อนไทม์ไลน์การปรากฏตัวของ ดาว ปิณฑิรา ว่าเป็นมาอย่างไรในบทความนี้
สนธิ ตั้งข้อสงสัย พี่เมียทนายตั้ม ซุกเงินเทา?
ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา เพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ได้ออกมาแฉทนายตั้มกรณีให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกเจ๊อ้อยดำเนินคดีฉ้อโกงเป็นครั้งแรก (ตอนนั้นยังไม่ถูกจับ) โดยสาระสำคัญคือการตั้งข้อสงสัยในช่วงสัมภาษณ์ของทนายตั้มกับสื่อที่มีการให้ข้อมูลวกวนไปมา และขัดแย้งกับข้อมูลลับที่มีอยู่ในขณะนั้น
ต่อมาสนธิได้เปิดประเด็นสัญญาว่าจ้างระหว่างเจ๊อ้อย และ บ.ษิทรา ลอว์เฟิร์ม ตั้งแต่ปี 2562 ให้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย-ธุรกิจ โดยเป็นการว่าจ้างเดือนละ 300,000 บาท ทว่าแทนที่จะโอนเข้าบัญชีบริษัท ทนายตั้ม กลับให้เจ๊อ้อยโอนเงินไปที่บัญชีของ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเปิดบัญชีออมทรัพย์เอาไว้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขากระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ทุกเดือนในปี 2567
ฝั่งสนธิจึงมีการคุ้ยประวัติธุรกิจของปิณฑิรา จนทราบว่ารายชื่อดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ราว 10% ตั้งแต่ปี 65 จนถึง ม.ค. 67 และพึ่งเริ่มออกจากการเป็นกรรมการเมื่อกลางปีนี้เอง กระทั่ง CSI LA ได้เผยข้อมูลว่าตัวปิณฑิรามีอาชีพเป็นคนรับใช้-เลี้ยงลูกทนายตั้ม แต่ทำไมมีเงินในบัญชีเยอะมาก
ต่อมาได้มีการโยงไปที่โพสต์ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่เคยระบุเรื่อง “ข่าวด่วน! สัมภเวสีออกอาละวาด” ซึ่งมีใจความสำคัญว่า มีทนายคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย อยู่ ๆ ก็รวมข้ามคืน และมีดีลกับเจ้าหน้าที่ DSI ทำพนันออนไลน์ ฯลฯ ก่อนทิ้งท้ายว่า “ภาษีไม่เคยจ่าย เพราะเงินที่ได้แบบเทาๆ เอาไปแอบซุกไว้ในบัญชีพี่เมีย ชื่อ ป.” ทำให้ตัวสนธิตั้งข้อสงสัยว่าโพสต์ดังกล่าวของชูวิทย์อาจเกี่ยวข้องกับปิณฑิรา การิวัลย์หรือไม่
โผล่ให้การในฐานะ “บุคคลใกล้ชิด”
กระทั่งวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายษิทรา-ภรรยา ในข้อหาฉ้อโกงตามรายงานก่อนหน้านี้ จึงมีการเชิญ น.ส.ปิณฑิรา มาให้ปากคำในฐานะบุคคลใกล้ชิด เนื่องจากพบว่าเส้นทางการเงินของทนายตั้มหลังฉ้อโกงเงินส่วนต่างค่าเขียนแบบโรงแรม 5.5 ล้านบาทจากเจ๊อ้อย ได้แบ่งจ่ายออกไป 1 ล้านบาทให้คนขับรถไปส่งมอบให้ ปิณฑิรา
ด้านเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลต่อว่า ปิณฑิรา อ้างว่าเงิน 1 ล้านดังกล่าว ทนายตั้มตั้งใจมอบให้เพื่อนำไปดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว เช่น ค่าเทอมลูก ฯลฯ และถ้าหมดเมื่อไหร่ก็สามารถมาเบิกกับตัวทนายได้อีก ก่อนหายเงียบจากหน้าสื่อและปรากฏตัวครั้งล่าสุดตามรายงานข้างต้นนั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง