เตรียมขนลุก แฉแผน ทนายตั้ม ใส่ชื่อเป็นผจก.มรดก หวังฮุบ 600 ล้าน
เตรียมขนลุก ปรเมศว์ เปิดแผน ทนายตั้ม สาเหตุใส่ชื่อเป็นผู้จัดการมรดก หวงฮุบ 600 ล้านบาท จากค่าดำเนินการ 10 เปอร์เซนต์ หักจากกองมรดกเศรษฐีนี
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกับช่อง 8 กรณีตรวจพบข้อพิรุธเกี่ยวกับพินัยกรรมของเจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีนีที่แจ้งข้อหาฉ้อโกงกับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในคดีต้องสงสัยฉกเงิน 71 และ 39 ล้านบาท ที่กำลังถูกเปิดโปงอย่างต่อเนื่อง
อัยการอาวุโส กล่าวถึงคดีนี้เรื่องบริสุทธิ์หรือไม่บริสทุธิ์นั้นค่อนข้างชัดแล้ว ไล่ตั้งแต่ปมของเรื่องเงิน 71 ล้าน ลากยาวมาจนถึงคีดรอง 39 ล้านบาท ทุกอย่างดูสอดคล้องกันไปหมด ส่วนปมพินัยกรรมแปลกตรงที่ไม่ให้ “มาดามอ้อย” เซ็นทุกหน้า
นายปรเมศวร์ย้ำว่าการทำพินัยกรรม โดยทั่วไปไม่ใช่ ! ว่าทนายไปเสนอให้อีกฝ่ายทำ ส่วนใหญ่ต้องเป็นเจ้าของมรดกเป็นฝ่ายแจ้งกับทนายความให้ช่วยทำ ซึ่งจากข้อเท็จจริงตามที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาเปิดเผย ตั้มบอกกับพี่อ้อยหลังแต่งตั้งเป็นทนายได้แค่ 9 วัน แล้วทำไมต้องเสนอให้ทำพินัยกรรม ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ตนมองมาดามอ้อยคงไม่ทราบ อาจเข้าใจว่าเป็นเจตนาดี แต่ความจริงนักกฎหมายเราไม่ไปยุ่งกับทรัพย์สินของคนคื่นนอกจากถูกสั่งให้ทำ
อาจารย์ปรเมศวร์ ทิ้งท้ายว่าการทำพินัยกรรมนั้นจำเป็นต้องลงนามทุกหน้า สาเหตุหลัก ๆ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงแก้ไข ถ้าไม่ลงทุกหน้า ใครอาจจะถอดหน้าตรงกลางแล้วเขียนใหม่ จากยกให้นาย ก. เป็นยกให้คนที่เขียนใหม่ได้ไหม ส่วนถ้าจะมองโดยเจตนาว่า ความไม่รู้ ก็ไม่ค่อยจะสอดคล้อง เพราะตั้มเองก็เป็นทนาย เรื่องแบบนี้จะไม่ทราบไม่ได้
ที่สำคัญผู้จัดการมรดกมีสิทธิได้รับ “ค่าตอบแทน” จากการจัดการมรดกตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยเรียกเอาจากกองมรดก ถ้าระบบทนายยังคิดค่าจ้างเป็นเปอร์เซนต์ที่ 10% พี่อ้อยมีมรดก 6 พันล้าน ดังนั้นค่าจ้างในการจัดการมรดก ค่าหัวคิวหรือค่าทำงานดีดเครื่องคิดเลขแล้ว ทนายตั้มมีสิทธิจะได้ 600 ล้านบาท จากการมีชื่อเป็นผจก. มรดก ซึ่งพินัยกรรมฉบับนี้ที่อ้างว่าทนายตั้มปลอมแปลงสอดไส้นั้นจะเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกันในชั้นศาลต่อไป.
อ่านข่าวเพิ่มเติม