22 ก.ย. ‘วันศารทวิษุวัต’ กลางวัน ยาวนานเท่ากับกลางคืน
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางวันกลางวันยาวนานกว่ากลางคืน หรือบางวันกลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน? นั่นก็เพราะโลกของเราเอียงนิดหน่อยขณะที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ไงล่ะ แต่ในวันที่ 22 กันยายนนี้ เป็นวันพิเศษที่เรียกว่า “วันศารทวิษุวัต” โลกเราจะตั้งตรง ไม่เอียงไปทางไหน ทำให้แสงแดดส่องทั่วโลกเท่าๆ กัน กลางวันและกลางคืนก็เลยยาวเท่ากันพอดีเลย
ความหมายและที่มาของคำเรียก
คำว่า “ศารทวิษุวัต” มาจากภาษาสันสกฤต โดย “ศารท” หมายถึง ฤดูใบไม้ร่วง และ “วิษุวัต” หมายถึง การเท่ากัน ดังนั้น วันศารทวิษุวัต จึงหมายถึงวันที่กลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากันในฤดูใบไม้ร่วง
ปรากฏการณ์นี้คืออะไร
วันศารทวิษุวัต เกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือในเดือนมีนาคมและกันยายน เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตรงกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดี ทำให้ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณที่เท่ากัน ส่งผลให้กลางวันและกลางคืนมีความยาวนานเท่ากัน
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะดวงอาทิตย์อยู่ตรงกับเส้นศูนย์สูตรโลกพอดี ทำให้แสงส่องทั่วโลกเท่ากัน ส่งผลให้กลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน สำหรับประเทศไทย
โดยในวันดังกล่าว ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 06.07 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18.14 น. ตามเวลา ณ กรุงเทพมหานคร แม้เวลาขึ้น-ตกจะดูไม่เท่ากันเป๊ะ ๆ แต่ถ้าดูที่จุดกึ่งกลางของดวงอาทิตย์ จะเห็นว่ากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากันจริง ๆ
วันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
– ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่เส้นศูนย์สูตร ในวันนี้ ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออกและตกตรงทิศตะวันตกพอดี หากคุณอยู่บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร จะสามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจน
– กลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน: วันนี้เป็นวันที่กลางวันและกลางคืนมีความยาวนานเท่ากันทั่วโลก คือประมาณ 12 ชั่วโมงเท่ากัน
– เป็นการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล วันศารทวิษุวัต ถือเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วงในซีกโลกเหนือ และฤดูใบไม้ผลิในซีกโลกใต้
หลังจากนี้ เตรียมตัวรับปรากฏการณ์ “วันเหมายัน” ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวันที่กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” นั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวมวันหยุด-วันพระ เดือนตุลาคม 2567 แพลนเที่ยวเป๊ะไม่ชนงาน
- จัดดอกไม้ใส่แจกัน ตามวันเกิด สร้างความงาม เสริมสิริมงคล