ตำรวจบุกรวบ หนุ่มฉีดขยายอวัยวะเพศ ฝังมุก ทำจ้าวโลกเน่าใช้งานไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบ หนุ่มฉีดขยายอวัยวะเพศ ฝังมุก หลังทำประชาชนจ้าวโลกเน่าและติดเชื้อรุนแรง ใช้งานไม่ได้ เผยเรียนวิชาครั้งแรกตั้งอายุ 14
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. นำกำลังร่วมจับกุม นายกิตติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง 22 รายการ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนให้ทำการสืบสวนกรณีมีบุคคลเปิดให้บริการผ่าตัดฝังมุก เสริมซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชายผ่านเฟซบุ๊ก โดยเปิดรับฝังมุก ซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์ ให้ประชาชนทั่วไป โดยมีผู้รับการฉีดซิลิโคนเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ จนเกิดการอักเสบ และติดเชื้อรุนแรง แม้หลังจากรับการรักษาอาการอักเสบแล้ว ยังมีอาการเจ็บปวดทรมานอวัยวะเพศ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และไม่สามารถใช้งานหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ ทำให้ประสบปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบถึงตัวผู้กระทำผิดโดยพบว่า มีการนัดหมายเพื่อทำการฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย และฝังมุกโดยใช้บ้านพักเป็นสถานที่ในการนัดหมายจริง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ตรวจสอบบ้าน 2 ชั้น ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบ นายกิตติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี กำลังให้บริการลูกค้าที่นัดหมายฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย โดยรับว่าตนไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยบ้านหลังดังกล่าวดัดแปลงชั้น 2 ของบ้าน เป็นสถานที่ทำการรับผ่าตัด หรือฉีดเพิ่มขนาด โดยไม่มีเตียง และเครื่องมือแพทย์ที่ถูกสุขอนามัยแต่อย่างใด พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยา, เวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการผ่าตัด รวม 22 รายการ จึงร่วมกันจับกุมนายกิตติกรฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต”
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด ซึ่งเรียนจบการศึกษาระดับชั้น ม.3 จากจังหวัดพังงา และได้เรียนวิชาฝังมุกและเริ่มทำครั้งแรก ตอน อายุ 14 ปี และทำมาตลอดรวม ๆ แล้ว ประมาณ 20 ปี โดยมีลูกค้าประมาณเดือนละ 2-3 ราย เป็นรายได้ครั้งละ 5,000-20,000 บาท การกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดตาม
1. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง