ไขปริศนา “เพจเจอร์ระเบิด” ได้อย่างไร เผยกลยุทธ์ลับจากเงามืด ปฏิบัติการสะเทือนขวัญกลุ่มก่อการร้าย สู่แผ่นการก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ในเลบานอน
จากกรณีเหตุการณ์ เพจเจอร์ระเบิดในเลบานอน ไม่เพียงแค่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก แต่ยังเผยให้เห็นถึงกลยุทธ์การก่อวินาศกรรมที่แยบยลและน่าสะพรึงกลัว แม้ว่าปริศนาเบื้องหลังวิธีการโจมตียังคงคลุมเครือ ทิ้งไว้เพียงร่องรอยและข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจประกอบกับทฤษฎีสมคบคิดอีกสารพัด ว่าอาจมีประเทศหรือกลุ่มทุนมหาอำนาจอยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรมครั้งนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและอาวุธยุทโธปกรณ์หลายรายเชื่อว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อาจอยู่เบื้องหลังการแทรกแซงห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับ
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดว่า กลุ่มก่อการร้ายอาจนำอุปกรณ์ระเบิดขนาดจิ๋วอาจถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนใน เพจเจอร์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตหรือขนส่ง รอเวลาถูกกระตุ้นจากระยะไกลด้วยสัญญาณวิทยุ เปรียบเสมือนกับการฝัง “ม้าโทรจัน” (ม้าไม้ขนาดยักษ์ในเรื่อง “สงครามกรุงทรอย”) ไว้ในอุปกรณ์สื่อสารที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย
ทั้งนี้ แบตเตอรี่ในเพจเจอร์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ อาจถูกดัดแปลงให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระเบิด เพียงแค่เพิ่มตัวจุดชนวนและประจุระเบิดเข้าไป เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้สามารถสร้างระเบิดขนาดเล็กที่มีอานุภาพร้ายแรงได้ เพียงแค่มีองค์ประกอบพื้นฐานครบถ้วน
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่อ้างว่าเป็นภาพเพจเจอร์ระเบิดยิ่งตอกย้ำความเป็นไปได้นี้ ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าขนาดของการระเบิดและลักษณะของบาดแผลบ่งชี้ถึงการใช้อุปกรณ์ระเบิดขนาดเล็ก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปฏิบัติการระดับชาติที่มีทรัพยากรและเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มก่อการร้ายทั่วไปสามารถทำได้
กลุ่มต้องสงสัยวางระเบิดด้วยเพจเจอร์
มอสสาด หน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอิสราเอล ตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก เนื่องจากมีประวัติการใช้วิธีการลอบโจมตีในลักษณะนี้มาก่อน อิสราเอลเคยถูกกล่าวหาว่าพยายามทำลายโครงการขีปนาวุธของอิหร่านด้วยการส่งชิ้นส่วนที่มีข้อบกพร่องเข้าไปในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการระเบิดได้ในภายหลัง นี่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของอิสราเอลในการแทรกแซงและทำลายศัตรูจากภายใน
เหตุใดจึงใช้เพจเจอร์?
คำตอบอยู่ในคำเตือนของผู้นำฮิซบอลเลาะห์เอง ที่เคยห้ามสมาชิกกลุ่มใช้โทรศัพท์มือถือเพราะกลัวถูกอิสราเอลติดตาม ทำให้เพจเจอร์กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของกลุ่ม นี่เป็นการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของศัตรูและเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสารที่ดูเหมือนปลอดภัยให้กลายเป็นอาวุธสังหาร
การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแต่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์การสื่อสารของฮิซบอลเลาะห์ พวกเขาอาจต้องละทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดเพื่อความปลอดภัย สร้างความยากลำบากในการประสานงานและปฏิบัติการ นี่คือโศกนาฏกรรมที่สะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามและความเปราะบางของชีวิตในดินแดนที่ความขัดแย้งยังคุกรุ่น
ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์เพจเจอร์ระเบิดที่เลบานอน
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 67 สำนักข่าว บีบีซี รายงานเหตุสะเทือนขวัญในเลบานอน เมื่อเพจเจอร์ที่ใช้สื่อสารในกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระเบิดทั่วประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 2,850 คน
ฮิซบอลเลาะห์ออกโรงกล่าวหาอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง ชี้เป็นการรุกรานทางอาญา พร้อมประกาศจะแก้แค้น ด้านอิสราเอลเมินให้ความเห็น ขณะที่อังกฤษรีบออกมาปัดไม่เกี่ยว
แพทย์เผย ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่โดนที่เอว หน้า ตา และมือ ส่วนผู้เสียชีวิตพบนิ้วขาดหลายศพ ที่น่าตกใจคือทูตอิหร่านก็โดนลูกหลงด้วย แต่โชคดีบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
ตำรวจยังงงสาเหตุที่แท้จริง เร่งสืบหาต้นตอ ด้านฮิซบอลเลาะห์ยังคงใช้เพจเจอร์เป็นหลักในการสื่อสาร หลังโทรศัพท์ถูกแกะรอยจนทำให้นักสร้างระเบิดฮามาสโดนอิสราเอลสังหารเมื่อปี 2539
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : theverge, The Guardian, APNews
