ข่าวภูมิภาค

ผู้ประกอบการเฮ ศาลปกครองภูเก็ต ห้ามคุมจำนวนนักท่องเที่ยวลงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 3 เดือน

พังงา – ผู้ประกอบการเฮ ศาลปกครองภูเก็ต ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามคุมจำนวนนักท่องเที่ยวลงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นระยะเวลา 3 เดือน

วานนี้ ( 2 ธ.ค.) ศาลปกครองภูเก็ตได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดี ในคดีที่นายนิพนธ์ สมเหมาะ ประธานชมรมและผู้ประกอบการเรือทัวร์หมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์ ฟ้องร้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2

โดยให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของ นายธัญญา เฉพาะประกาศที่พิพาทฉบับแรกตามประกาศกรมอุทยานฯ เรื่องการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ลงวันที่ 9 ต.ค.2561 ตามคำขอของผู้ฟ้องคดี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562- 31 มีนาคม 2562 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น และให้ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ทุเลาการบังคับตามประกาศที่พิพาทฉบับที่ สองตามประกาศกรมอุทยานฯ

เรื่องกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะประเภทเรือที่เข้าไปในเขตอุทยานฯ สิมิลัน ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2561 โดยศาลได้พิจารณาให้ทุเลาการบังคับตามประกาศที่พิพาททั้งสองฉบับไม่ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป การให้ทุเลาบังคับตามประกาศที่พิพาททั้งสองฉบับไม่ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ย่อมไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่สาธารณะแต่อย่างใด

ด้านนายนิพนธ์ สมเหมาะ ประธานชมรมเรือนำเที่ยวสิมิลัน สุรินทร์ กล่าวว่า จากการที่ศาลปกครองภูเก็ตได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เป็นระยะเวลา 3 เดือน คือ มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม ผู้ประกอบการ พนักงาน และชาวบ้าน ต้องขอขอบคุณศาลที่ท่านกรุณาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในตอนนี้ แต่ตนมองจุดนี้เป็นจุดที่เพิ่งจะเริ่มต้น ซึ่งสิ่งที่เรานำไปชี้แจงต่อศาลเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมดในทุกๆด้าน ทั้งในเรื่องของการทำงานวิจัย การมีส่วนร่วม การดูแลทรัพยากร หรือแม้แต่เรื่องของการท่องเที่ยว

“ต้องยอมรับว่าตอนนี้ภาพของการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ตกต่ำเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศและของประชาชน ถ้าภาพของการคุ้มครองอุทยานแห่งชาติเกาะสิมิลันมันเกิดในมิติของการร่วมมือ ที่เราจะใช้การท่องเที่ยว การดูแลการรักษาร่วมกัน”

ในวันที่ศาลปกครองภูเก็ตไต่สวน ศาลท่านเองก็ได้ถามว่าถ้าศาลคุ้มครองแล้วมีนักท่องเที่ยวเพิ่มทางผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวจะทำอย่างไร ตนเองก็เรียนต่อศาลว่า งานของการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเฉพาะเกาะสิมิลันปัจจุบันเป็นที่ได้รับความนิยมและมีหลายหน่วยงานที่มาเกี่ยวข้อง เช่น การคมนาคมทางทะเล ก็มีกรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ การช่วยเหลือด้านความปลอดภัยในทะเล หรือแม้แต่ตัวทรัพยากรเอง ในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก

การดูแลการตรวจสอบ อาจจะมีหน่วยงานอื่น เช่น กรมทรัพยากรทางทะเล หรือหน่วยงานราชการในท้องถิ่นเข้าไปช่วยอุทยานในเรื่องของกระบวนการท่องเที่ยวทางทะเลและสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับที่พอดี จัดการกับทรัพยากรได้

ในส่วนของการที่อุทยานจะทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองนั้น เมื่อศาลให้ความคุ้มครองหากมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเราต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและเกิดผลกระทบรวมทั้งรวบรวมในเรื่องหลักการจัดการเพื่อนำมาศึกษาและปฏิบัติที่ชัดเจน ส่วนในเรื่องของการอุทธรณ์เป็นเรืองปกติหากความคิดเห็นต่างๆยังไม่ชัดเจนไม่เหมือนกันก็เป็นสิทธิของทางอุทยานที่จะทำได้

ตนเองมองว่าในการที่ร้องศาลปกครอง ก็ทำไปตามขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้ถูกนำเสนอไปถึงฝ่ายบริหาร ฝ่ายสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายนิติบัญญัติเรื่องของทางผู้ประกอบการก็ได้เข้ากรรมาธิการ รัฐสภา และศาลดูจากข้อมูลที่ทางเราได้รวบรวม

ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง มองว่าศาลใช้ดุลพินิจในครั้งนี้ได้เหมาะสม ส่วนทางอุทยานจะอุทธรณ์ก็แล้วแต่มุมมอง หากมีการอุทธรณ์จริงตนก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงให้ศาลท่านได้ทราบถึงข้อเท็จจริง และไม่ใช่เราไม่ดูแลทรัพยากรแต่เราจะใช้ทรัพยากรที่อยู่อย่างเหมาะสม”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button