“ปาบึก” กำลังจะขึ้นฝั่ง มาย้อนรอย “แฮเรียต” วาตภัยทำลายล้างแหลมตะลุมพุก
จากกรณีพายุ “ปาบึก” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่แหลมตะลุมพุก จ. นครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำวันที่ 4 ม.ค. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถานที่แห่งนี้ประสบภัยพิบัติจากพายุร้าย ย้อนกลับไปเกือบ 57 ปีก่อน เมื่อวันที่ 25 ต.ค. พ.ศ. 2505 พายุโซนร้อน “แฮเรียต” เข้าถล่มภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะที่แหลมตะลุมพุก พายุลูกนี้ถูกบันทึกว่าเป็นพายุมฤตยู พ.ศ.2505 ร้ายแรงกว่าพายุไต้ฝุ่นแวนด้าที่เกิดในเดือนกันยายนปีเดียวกัน
พายุแฮเรียตเคลื่อนขึ้นฝั่งที่แหลมตะลุมพุก ที่มีผู้อยู่อาศัย 4,000 คน ในตอนค่ำของวันที่ 25 ต.ค. ด้วยความเร็วลม 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทำให้เกิดคลื่นพายุ (สตอร์มมเสิร์จ) ซัดฝั่งในช่วงกลางดึก จากนั้นลมจึงค่อยๆ อ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในอ่าวเบงกอลใกล้บังกลาเทศในวันที่ 30 ต.ค.
ความรุนแรงของพายุมฤตยูกวาดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนแหลมตะลุมพุกจนสิ้นซาก ขนาดพายุเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 กิโลเมตร ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และน้ำท่วมอย่างฉับพลันด้วยคลื่นสูงกว่า 3 เมตร มีบ้านเพียง 5 หลังที่เหลือรอดจากการถูกทำลายไม่เพียงแค่แหลมตะลุมพุก พายุโซนร้อนแฮเรียตยังส่งผลกระทบต่อ 12 จังหวัดในภาคใต้ ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ลงไปถึงนราธิวาส มีผู้เสียชีวิต 911 คน บาดเจ็บสาหัส 252 คน และสูญหาย 142 คน และกว่า 16,170 คนไร้ที่อยู่อาศัย มูลค่าความเสียหายสูงถึง 377-1,000 ล้านบาท
ติดตามข่าวล่าสุดเกี่ยวกับพายุปาบึก 2562 ล่าสุดเกี่ยวกับ The Thaiger