ข่าวต่างประเทศ

แม่ชาวจีนใช้แก้วร้านอาหารรองฉี่ลูก วิจารณ์สนั่น ทำแบบนี้ได้หรอ

ทำเอาโซเชียลวิจารณ์กันเป็นวงกว้าง เมื่อมีข่าวลือว่า แม่ชาวจีนใช้แก้วร้านอาหารรองฉี่ลูก แถมสายตาลูกค้าคนอื่นยังมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างหนักในโลกออนไลน์ทางฝั่งฮ่องกง เมื่อมีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งถือแก้วน้ำไว้และวางไว้บริเวณช่วงล่างของเด็กชาย ในขณะที่เด็กชายถลกกางเกงลงครึ่งหนึ่งและชี้ส่วนล่างของร่างกายไปที่แก้วน้ำ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเด็กชายกำลังปัสสาวะลงในแก้วน้ำ เนื่องจากเด็กชายยืนอยู่บนเก้าอี้ พฤติกรรมของเขาจึงเป็นที่สังเกตได้ง่าย แม้ว่าจะมีลูกค้าคนอื่นๆอยู่ด้วย แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ขณะที่พนักงานก็กำลังทำความสะอาดเคาน์เตอร์อยู่

Advertisements

หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างตกใจหลังจากเห็นภาพดังกล่าว และวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ โดยคอมเมนต์ว่า “มันเป็นเรื่องที่ผิด” , “มันเป็นอะไรที่แย่มาก”, “ไปเข้าห้องน้ำมันยากมากเลยเหรอ?”, “มันทำให้ฉันรู้สึกป่วย”, “ความแตกต่างทางวัฒนธรรม นี่คือที่มาของความน่ารังเกียจ” , “น่าขยะแขยง ฉันจะไม่ไปที่นั่นอีก” ชาวเน็ตบางคนยังพูดติดตลกว่า “ปัสสาวะเด็ก” และ “สีหน้าของพนักงานดูเหมือนจะชินกับมันแล้ว”

ชาวเน็ตบางคนยังกล่าวอีกว่า การปัสสาวะใส่แก้วถือเป็นการกระทำในที่สาธารณะ “มันถือเป็นการกระทำในที่สาธารณะ แต่มันก็เปิดเผยเกินไป…”, “คุณต้องการให้เด็กแสร้งทำเป็นว่าอยู่ในบ้านที่คนอาศัยอยู่ในบ้านหรือ?”, มีเพียงชาวเน็ตที่โต้แย้งว่า “คุณขี้เกียจและแสร้งทำเป็นว่ารับผิดชอบ ดังนั้นคุณจึงสามารถปัสสาวะในที่สาธารณะได้หรือไม่”, “คุณเป็นผู้ใหญ่ คุณควรสอนเด็ก ๆ ให้ไปเข้าห้องน้ำ”

แม้ว่าภาพดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ในกลุ่มออนไลน์ของฮ่องกง แต่ชาวเน็ตที่สังเกตเห็นข้อความในร้านอาหารที่เขียนว่า “จิตวิญญาณแห่งบะหมี่จีนในมณฑลส่านซี” เป็นภาษาจีนแบบย่อ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่

อ้างอิง : www.hk01.com

Advertisements

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button