ย้อนเล่าสาเหตุที่ทำให้นักแสดงดัง ‘เพชรา เชาวราษฎร์’ เจ้าของฉายา “นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง” ต้องสูญเสียการมองเห็น จุดเริ่มต้นเป็นเพราะหน้าที่การงาน และเหตุที่ทำให้ตัดสินใจสู้ต่อก็เป็นเพราะคำว่าอาชีพ
หากเอ่ยถึงชื่อ อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์ เชื่อว่าแฟนละครยุคเก่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงภาพของนักแสดงหญิงผู้เลอโฉม เจ้าของฉายา “นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง” ที่เคยสร้างผลงานประดับวงการไว้ราว 300 เรื่อง ในระหว่าง พ.ศ. 2505 – 2521 คุณแม่อี๊ด ได้เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงจากการประกวดเทพธิดาเมษาฮาวาย ประจำปีพ.ศ. 2504 จากนั้นก็ได้รับโอกาสให้รับบทในภาพยนตร์เรื่องแรก “บันทึกรักของพิมพ์ฉวี” ซึ่งนับเป็นผลงานแจ้งเกิดให้มีชื่อเสียงดังทุกวันนี้
ในขณะเดียวกันทุกคนต่างรู้กันดีว่าเบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นั้น แม่อี๊ดต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล
ความยิ่งใหญ่ในฐานะนักแสดงที่ต้องแลกด้วย “ดวงตา”
ท่ามกลางความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ที่ทุกคนขนานนามให้เป็นยุคของ ‘เพชรา เชาวราษฎร์’ ในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2513 ขณะกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “ไทยใหญ่” แม่อี๊ดเริ่มประสบปัญหาด้านการมองเห็น ซึ่งสาเหตุก็มาจาก การทำงานหนักจนไม่ได้พักสายตา ต้องรับบทหนักโดยการร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับในระหว่างการถ่ายภาพยนตร์จำเป็นต้องใช้แสงไฟสว่างจ้า รวมถึงต้องใช้แผ่นรีเฟล็กซ์ (แผ่นสะท้อนแสงลบเงา) เพื่อช่วยลบเงาบนใบหน้าขณะถ่ายทำ นานวันเข้าปัญหาดวงตาจึงค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้น
หลังจากที่ดวงตาเริ่มมีปัญหา แม่อี๊ดจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ แต่ด้วยหน้าที่การงานทำให้หลาย ๆ ครั้งไม่สามารถไปตามนัดได้ โดยในช่วงที่อาการวิกฤตมาก ๆ ก็พยายามรักษาทุกวิถีทาง แต่ฟ้ากลับไม่เป็นใจเพราะมีอาการแพ้ยาดังกล่าวจนตัวบวม จากเดิมน้ำหนักประมาณ 47 – 48 กิโลกรัม ก็ขึ้นเป็น 60 กว่ากิโลกรัม ทั้งยังผมร่วงหมดศีรษะ ฝ้าดำขึ้นตามใบหน้าและลำตัว หายใจไม่ออก กลืนน้ำไม่ได้
อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ที่ ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ เคยสัมภาษณ์กับรายการ คุยแซ่บShow เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ซึ่งได้เผยถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ภรรยาสุดที่รักต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดกาลว่า แม้ทุ่มเทเวลาไปกับการรักษาอยู่หลายปีถึงขนาดเข้ารับการผ่าตัด แต่ก่อนจะตาบอดสนิท คุณหมอเคยขอร้องให้เลิกทำงานนี้ แต่เมื่อมีคนก็มาอ้อนวอนก็ต้องไป
สุดท้ายในช่วงปี 2521 ดวงตาก็เริ่มบอดสนิททั้งสองข้าง จนเป็นเหตุให้ต้องวางมือจากงานแสดงทั้งหมด เพื่อรักษาสุขภาพอย่างจริงจัง โดยภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่แม่อี๊ดแสดงก็คือเรื่อง “ไอ้ขุนทอง” ออกฉายในปี 2520 รับบทเป็นแม่ของพระเอก ซึ่งแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี
จนกระทั่งราว ๆ ปีพ.ศ. 2544 – 2548 แม่อี๊ดได้หวนคืนงานในวงการในบทบาทของการเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม FM และก็ได้รับงานโฆษณาลิปสติกมิสทีน โดยได้นำรายได้ทั้งหมดบริจาคให้องค์กรการกุศล และส่วนหนึ่งได้มอบให้กับมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย
ในปี 2561 ‘เพชรา เชาวราษฎร์’ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์)
แม้ไร้การมองเห็น แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘เพชรา เชาวราษฎร์’ ก็มีสามีคู่บุญอย่าง ‘ชรินทร์ นันทนาคร’ คอยอยู่เคียงข้างเสมอและเป็นเช่นนี้เรื่อยมาจวบจนวันสุดท้ายของอาชรินทร์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง