สาวบริโอ้ขาว มอบตัวแล้ว เล่าตอนคู่กรณีเกาะหน้ารถ ทำไมไม่จอด
พร สาวขับเก๋งบริโอ้ สีขาว คู่กรณี เปิ้ล หญิงเกาะหน้ารถ เหตุชนแล้วหนีแถวโรงพยาบาลราชวิถี ลากไปร่วม 30 เมตร เผยช่วงเกิดเหตุไม่รู้เรื่อง ยอมรับตกใจมาก ยันไม่ได้เมาขับ ผลตรวจไม่พบสารเสพติด
หลังจากก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนกับคู่กรณี ซึ่งตัดสินใจกระโดดเกาะกระโปรงหน้ารถยนต์พร้อมกับ ที่ผู้เสียหายถูกลากไปเป็นระยะทางกว่า 20-30 เมตร ล่าสุด น.ส.พร หญิงคนขับรถเก๋งบรีโอ้ คันสีขาว ที่เป็นคนก่อเหตุ ขับรถลาก น.ส.เปิ้ล หญิงเกาะรถ หลังเกิดอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนกันบริเวณโรงพยาบาลราชวิถี
โดยล่าสุดคู่กรณีทั้งสองได้เดินทางมาให้ปากคำ ที่สน.ดุสิต เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว
น.ส.พร อายุ 38 ปี คู่กรณีที่ขับรถชน กล่าวหลังให้ปากคำนานกว่า 3 ชม. ระบุวันเกิดเหตุ เธอมารู้สึกตัวอีกทีตอน น.ส.เปิ้ล คู่กรณีตะโกนบอก ซึ่งก็พยายามโบกมือให้คู่กรณีชิดซ้าย เพื่อจอดพูดคุย แต่เนื่องจากฉุกคิดกระทันหัน ตัวเองไม่มีใบขับขี่รถยนต์ จึงเกิด “ความกังวล”
รวมถึงในหัวยังหวาดกลัวว่า ถ้าลงไปพูดคุยจะเกิดอันตราย ทำให้เลือกที่จะขับรถไปต่อ จนเหตุการณ์เป็นอย่างในคลิป
วินาที่เห็นคู่กรณีกระโดดเกาะหน้ารถ พ.ส.พร คนขับรถบรีโอ้ ยอมรับ เธอเกิดอาการกลัวมาก เพราะไม่ใช่คนในพื้นที่
หลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป เช้าวันรุ่งขึ้น ตั้งใจไปพบตำรวจ แต่ติดปัญหาเรื่องเงินประกันตัวจึงได้มีการขับรถกลับไปที่ จ.กาญจนบุรี
อย่างไรก็ดี น.ส.พร ยืนยันว่า ไม่เคยใช้สารเสพติด และวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้มีอาการมึนเมาสุรา ซึ่งวันนี้ผลตรวจหาสารเสพติดก็ไม่พบว่ามีสารแปลกปลอมในร่างกาย ก่อนจะมีการยกมือไหว้ขอโทษ น.ส.เปิ้ล คู่กรณี
แต่เข้าใจว่าคู่กรณียังโกรธอยู่จึงไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันมาก อยากจะขอโทษคู่กรณี และขอโทษสังคมกับสิ่งที่ตนทำไป
ขณะที่ นายเต้ อายุ 26 ปี เจ้าของรถยนต์ตามทะเบียนให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ “พร” มาขอยืมรถเหมือนที่เคยยืมไปใช้อยู่บ่อยครั้ง
บอกว่าครั้งนี้จะยืมรถไปสมัครงาน และหาเพื่อนที่กทม. ตนไม่ได้เอะใจอะไร
แต่ทันทีที่ น.ส.พร ขับรถกลับมาถึงบ้าน ตนรู้สึกตกใจว่า ทำไมรถถึงเกิดความเสียหายจึงสอบถามพูดคุยกัน
หนุ่มเจ้าของรถยืนยันเข้าใจ น.ส.พร ดี เพราะปกติเป็นคนขี้กลัว และขี้ตกใจเป็นอย่างมาก ส่วนที่มีกระแสข่าวตนหนีไฟแนนซ์ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ส่วนเรื่องคดีความ มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหากับ น.ส. พร ประกอบด้วยข้อหาชนแล้วหนี , ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และข้อหาทำร้ายร่างกาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนจะให้ประกันตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์เนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง
หลังจากนี้จะนัดวันให้ผู้ต้องหามาพบเพื่อส่งฟ้องศาลฯ ต่อไป ส่วนคดีจราจรได้มีโทษปรับไปแล้ว.
อ่านข่าวเพิ่มเติม