คนชอบกินถั่วต้องระวัง หมอยกเคส ‘ป่วยมะเร็งตับ’ สาเหตุเพราะกินของว่างชนิดนี้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเตือนภัยสุขภาพ ทาน ‘ถั่วลิสง’ เป็นประจำ เสี่ยงป่วยมะเร็งตับ ยิ่งร้ายแรงหากเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ยกเคสตัวอย่างอาจารย์หมอ ยืนยันว่าเกิดขึ้นจริง
เว็บไซต์ต่างประเทศ hk01 รายงานถึงเรื่องราวที่ เซียว ตุนเหริน คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินน้ำดีในไต้หวัน ได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “Doctors Are So Hot” แพทย์ผู้นี้ได้ยกเคสอาการป่วยของอาจารย์หมอเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ชม โดยเผยว่า อาจารย์หมอของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ ซึ่งคาดว่าอาจมีสาเหตุมาจาก “อาหาร” ที่กินเป็นกระจำ
อาจารย์หมอท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินอาหารชื่อดัง แต่เนื่องจากนายแพทย์มักจะใส่ใจในการตรวจรักษาคนไข้จนเกินเวลา ซึ่งบางครั้งอาจกินเวลานานถึง 3 ชั่วโมง เมื่อรู้สึกหิว พยาบาลก็จะนำ “ถั่วลิสง” มาให้ทานเป็นอาหารว่างเพื่อบรรเทาความหิว
ผลปรากฏว่าเมื่ออายุราว ๆ 54 ปี คุณหมอท่านนี้รู้สึกไม่สบายบริเวณช่องท้องด้านขวาส่วนบน และเมื่อทำการตรวจอัลตราซาวด์ก็พบเนื้องอกในตับ ซึ่งมีการแตกและมีเลือดออก และหลังจากการตรวจอย่างละเอียด ก็ได้รับการยืนยันได้ว่า ป่วยเป็นมะเร็งตับ
‘เซียว ตุนเหริน’ กล่าวว่า เขารู้สึกตกใจมากที่อาจารย์ของเขาเป็นมะเร็งตับ และหลังจากพยายามหาสาเหตุอย่างละเอียด จึงพบว่า ก่อนหน้านี้อาจารย์ของเขามีภาวะไวรัสตับอักเสบบีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับอยู่แล้ว ประกอบกับยังได้รับสารอะฟลาทอกซิน (aflatoxin) จากการทานถั่วลิสงมากเกินไป การสะสมของปัจจัยเสี่ยงทั้งสองนี้ทำให้ตับมีแนวโน้มที่จะเกิดเนื้องอกได้ง่าย และกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด
ด้วยเหตุนี้ นายแพทย์จึงอยากเตือนว่า ถ้าถั่วลิสงถูกเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงกว่า 12 องศาเซลเซียส หรือถูกวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องมักจะก่อให้เกิดสารอะฟลาทอกซิน (aflatoxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้นหลังจากแกะถั่วลิสงแล้ว ควรนำไปแช่ตู้เย็นก่อนรับประทาน และนอกจากการทานถั่วลิสงที่เก็บไว้นานเกินไปแล้ว ผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับ การใช้ยาพร่ำเพรื่อ และผู้มีพฤติกรรมชอบทานอาหารดิบ ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคเกี่ยวกับตับเช่นกัน
เช่นนั้นแล้วจึงอยากเตือนประชาชนว่าควรเก็บอาหารจำพวกถั่วไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 12 องศาเซลเซียส จะเป็นการดีที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง