‘สารวัตรแจ๊ะ’ ยื่นฟ้องกลับ ‘ทนายรัชพล’ ข้อหาหมิ่นประมาท หลังหาว่าจับแพะ
สารวัตรแจ๊ะ สารวัตรคนดัง ยื่นฟ้องกลับ ทนายรัชผล ข้อหาหมิ่นประมาท หลังทนายรัชพลกล่าวหาว่ามีการจับแพะ ทำประชาชนติดคุกฟรี
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ทนายรัชพล ศิริสาคร โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า คดีที่สารวัตรแจ๊ะ พานายนริน เชื้อคมตา (อดีตผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่/แพะคดีอนาจารเด็ก) ไปเข้าเซฟเฮ้าส์ 4 วัน 3 คืน แล้วถูกจับข้อหาอนาจารเด็ก 5 ขวบ ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี นายนรินปฏิเสธมาตลอด แต่ถูกเอารูปไปปนกับรูปคนอื่นแล้วให้เด็กชี้รูป ซึ่งเด็กรู้จักนายนรินคนเดียว ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะการสอบสวนไม่เป็นไปตามขั้นตอน มีพิรุธ ศาลอุทธรณ์ลงโทษ 2 ปี 8 เดือน แต่สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง นายนรินตกเป็นแพะติดคุกฟรี 1 ปี 3 เดือน
นายนรินฟ้องกลับ สตช. เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท (ตามกฎหมายฟ้องสารวัตรแจ๊ะโดยตรงไม่ได้เลยต้องฟ้อง สตช.) ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัด 22เมย67 เวลา 09.00 น. คดีนี้เป็นคดีจิตอาสา เลยมีทนายแค่คนเดียว ผมต้องเตรียมคดีเยอะหน่อย แต่เอาอยู่ ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดสารวัตรแจ๊ะ สารวัตรคนดัง กองกำกับการสืบสวนนครบาล (IDMB) ได้ยื่นฟ้องกลับทนายรัชพล พร้อมเปิดเผยว่า คดีที่ทนายรัชพล โพสต์ข้อความใส่ร้ายตนว่าจับแพะ ทำให้ติดคุกฟรี ปีกว่า
ความจริงคดีนี้ การจับกุมจำเลยคดีดังกล่าวตนได้ทำไปตามหลักของการสืบสวน ไม่ได้มีการใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งจับกุม ตนมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมให้ศาลพิจารณา แม้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นจะยกฟ้อง ก็ยกฟ้องด้วยเหตุสงสัย
ต่อมาศาลอุธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างหลักฐานของโจทก์ได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 279 วรรคสอง จำคุก 2 ปี และเนื่องจากจำเลยมีประวัติความผิดเกี่ยวกับคดีอาญา เป็นเหตุให้เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 2 ปี 8 เดือน
แม้ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ก็ยังยกฟ้องด้วยเหตุสงสัย ไม่ได้ยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดโดยศาลวินิจฉัยพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย”
สารวัตรแจ๊ะลั่น การมาฟ้องในวันนี้ถือเป็นการปกป้องชื่อเสียงของตน ทุกวันนี้ตนทำงานมีหน้าที่ตนต้องปกป้องประชาชน ถ้าวันนี้ตนปกป้องตัวเองไม่ได้ ตนจะไปปกป้องคนอื่นได้ยังไง กล่าวหาว่าตนพาผู้ต้องหาไปอยู่เซฟเฮาส์ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทำไมทนายไม่แนะนำให้ลูกความดำเนินคดีกับตน ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวไปเลย
ทนายต้องรู้กฏหมาย เป็นการจับกุมตามหมายจับของศาล กระบวนการต่อไปมี พนักงานสอบสวน อัยการ และศาล ไม่เคยรู้จัก ไม่มีเหตุกลั่นแกล้งกัน โพสข้อความใส่ร้ายตนตอนนี้ต้องการอะไร
ขณะที่ ทนายอาชิรญาณ์ ทนายความของสารวัตรแจ๊ะ เสริมว่า การยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยนั้น ตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.227 วรรคสอง ต่างจากการยกฟ้อง เพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด
ตามหลักกฎหมาย ถ้าพยานหลักฐานที่ปรากฏต่อศาลยังมีข้อสงสัยอยู่ ว่าจำเลยกระทำความผิดจริงหรือไม่ ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย หลักนี้มีในกฎหมายไทยและเป็นหลักสากลอยู่แล้ว และคดีที่สารวัตรแจ๊ะถูกกล่าวหาศาลอุธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย นั้นหมายความว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่น ยืนยันได้ว่าจำเลยกระทำความผิด เพียงแต่ศาลฎีกา ยกฟ้องเพราะเหตุแห่งความสงสัยบางประการ ไม่ได้หมายความว่าจำเลยจะไม่ได้กระทำความผิด และศาลก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด
การที่นักกฎหมายหรือทนายความออกมาพูดกล่าวหาสารวัตรแจ๊ะแบบนี้ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ถ้ามีประชาชนหรือผู้ติดตามเพจสื่อโซเชียลมีเดียเกิดหลงผิดเชื่อขึ้นมา หรือไม่เข้าใจข้อกฏหมาย การพูดแบบนี้ถือว่าเป็นการทำลายหลักกฎหมาย และทำลายตำรวจที่กำลังทำงานเพื่อประชาชนอยู่
ถ้าตำรวจจับโจรแล้วศาลยกฟ้อง แล้วตำรวจต้องถูกกล่าวหาว่าจับแพะ ตำรวจคงไม่กล้าจับคนร้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง