ข่าว

บุญครั้งสุดท้าย พยาบาลสาวเสียชีวิต บริจาคอวัยวะ ช่วยต่อลมหายใจผู้ป่วย

ร่วมแสดงความอาลัยและเชิดชูเกียรติแด่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ พยาบาลสาวเหยื่อเมาแล้วขับเสียชีวิต บริจาคอวัยวะช่วย 5 ชีวิต แม้ตัวจากไปแต่จิตวิญญาณแห่งความดีจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์

เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เฟชบุ๊ก โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม. ได้โพสต์แสดงความอาลัยต่อการจากไปของ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ อายุ 35 ปี พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลห้องตรวจโรคเฉพาะทาง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ หลังเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะเมาแล้วขับชนจักรยานยนต์ จนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยผู้ตายได้ทิ้งมรดกชิ้นสุดท้ายไว้ คือ การบริจาคอวัยวะร่างกายให้กับสภากาชาดไทย ตามที่เคยสั่งเสียไว้ ประกอบด้วย หัวใจ, ไต 2 ข้าง, ม้าม และหลอดเลือดดำอุ้งเชิงกราน ต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยได้อีก 5 ชีวิต

ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ด้วยความเสียสละและความรับผิดชอบ จนได้รับคำชื่นชมจากผู้รับบริการมาโดยตลอด

พยาบาลสาวเสียชีวิต บริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดไทย ช่วยผู้ป่วย 5 ชีวิต
ภาพจาก : โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม.
ในวันที่ 15 เมษายน 2567 คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ บุคลากรโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ร่วมไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ ขอกุศลแห่งบุญในครั้งนี้ ส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพ พวกเราระลึกถึงความดีงามและความเสียสละตลอดไป

การบริจาคอวัยวะต่างกับบริจาคร่างกายอย่างไร

อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์รับบริจากอวัยวะ สภากาชาดไทย ระบุว่า การบริจาคอวัยวะ คือ การมอบอวัยวะ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่อวัยวะนั้นๆ เสื่อมสภาพ ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตจากภาวะสมองตายเท่านั้น (ยกเว้น ไต 1 ข้าง, ตับ, ไขกระดูก เป็นต้น ที่สามารถบริจาคได้ตอนยังมีชีวิตอยู่)

หลังผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะไปให้ผู้ป่วยที่ได้รับบริจาค แพทย์จะตกแต่งร่างกายของผู้บริจาคให้เรียบร้อย แล้วมอบให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้ผู้บริจาคจะต้องรับแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะจากทั่วประเทศ โดยติดต่อได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย, เหล่ากาชาดจังหวัดทุกแห่ง, โรงพยาบาลประจำจังหวัด

คุณสมบัติผู้บริจาคอวัยวะ

  1. อายุไม่เกิน 65 ปี
  2. เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย
  3. ปราศจากโรคติดเชื้อ และโรคมะเร็ง
  4. ไม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน, หัวใจ, โรคไต, ความดันโลหิตสูง, โรคตับ และไม่ติดสุรา
  5. อวัยวะที่จะบริจาคต้องทำงานได้ดี
  6. ปราศจากเชื้อที่ถ่ายทอดทางการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี, ไวรัสเอดส์ ฯลฯ
  7. ควรแจ้งเรื่องการบริจาคอวัยวะให้บุคคลในครอบครัวหรือญาติรับทราบด้วย

หมายเหตุ: อวัยวะที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ไต 2 ข้าง, ปอด 2 ข้าง, หัวใจ, ตับ, ตับอ่อน นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ลิ้นหัวใจ, หลอดเลือด, ผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น, กระจกตา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม.

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button