หญิงดวงซวย โดน ‘ตัดขา’ หลังชะล่าใจ ขาพลิกแต่ไม่ยอมหาหมอ ซ้ำซื้อยามาฉีดเอง
อุทาหรณ์เตือนใจ หญิงวัย 55 ปี ขาพลิก คิดว่าไม่เป็นไรจึงไม่ยอมไปหาหมอ ซ้ำร้ายยังหาซื้อยามาฉีดบรรเทาอาการปวดด้วยตัวเอง ก่อนโดนหามส่งโรงพยาบาลเพราะขาบวมหนัก สุดท้ายหมอแจ้งว่าจำเป็นต้อง ‘ตัดขา’
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานถึงเคสน่าเห็นใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งผู้ป่วยหญิงวัย 55 ปีรายหนึ่งถูกส่งตัวด่วนมายังโรงพยาบาล ด้วยอาการขาอักเสบและอาการบวมน้ำในบริเวณต้นขา แต่เพราะอาการที่หนักหนาเกินรักษาได้ แพทย์จึงจำเป็นต้องตัดขาทั้งสองข้าง เพื่อรักษาขาส่วนที่เหลือไว้
นายแพทย์ท่านหนึ่ง จากแผนกติดเชื้อทั่วไปแห่งโรงพยาบาลโรคเขตร้อนกลางเวียดนาม ได้เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นถึงเคสดังกล่าวว่า เขาเป็นหมอเจ้าของไข้ของหญิงวัย 55 ปีคนนี้ ซึ่งเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเนื้อตาย และจากการซักประวัติพบว่า เธอเป็นโรคเบาหวาน และในช่วงก่อนเทศกาลประจำปีของเวียดนาม เธอประสบอุบัติเหตุขาข้างซ้ายพลิก ขณะอุ้มหลาน
หลังได้รับบาดเจ็บ เธอก็ไปซื้อยามาฉีดเอง ทั้ง ๆ ที่ไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร ซึ่งอาการบวมอักเสบที่ขาซ้ายก็ยังไม่ดีขึ้น และด้วยความที่เป็นช่วงเทศกาล หญิงคนนี้จึงไม่ได้ไปหาหมอ แต่เลือกที่จะรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน จนกระทั่งอาการเริ่มรุนแรงขึ้น และมีเนื้อตายที่ทั้งสองข้าง สุดท้ายจึงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
“ตอนมาถึงโรงพยาบาล เนื้อตายที่ขาของคนไข้รุนแรงมากแล้ว เราจึงตัดสินใจตัดขาบางส่วน เพื่อรักษาส่วนที่เหลือไว้”
แพทย์คาดว่า สาเหตุอาจเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีอาการอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนที่ขาข้างเดียวก่อน จากนั้นอาการดังกล่าวก็ไปกระตุ้นให้เกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ อันเป็นเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในบริเวณขา การอักเสบ และอาการบวมน้ำ ก่อนจะไปกดทับเส้นเลือดที่ขาและเกิดเป็นภาวะเนื้อตายในที่สุด
อย่างไรก็ดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า อาการอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนเป็นภาวะการอักเสบที่พบบ่อย เพราะอาจเกิดได้จากเชื้อแบคทีเรีย โดยในบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนที่ได้รับความเสียหายจะมีอาการบวม ร้อน แดง และเจ็บปวด และอาการอาจเกิดขึ้นเฉพาะที่ หรือลุกลามไปทั่วอวัยวะ ในบางกรณีอาจทำให้เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อตาย ซึงผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงก็อาจติดเชื้อเข้ากระแสเลือดจนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
เชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อย อันจะทำให้เกิดอาการอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนก็คือ Staphylococcus และ Streptococcus เชื้อเหล่านี้มักอาศัยอยู่บนผิวหนัง เมื่อมีรอยแผลหรือรอยถลอกที่แขนขา เชื้อก็จะเข้าสู่เนื้อเยื่ออ่อนและทำให้เกิดโรคต่าง ๆ
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคเก๊าต์ ภูมิคุ้มกันต่ำ มักมีโอกาสเป็นโรคอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนสูง สาเหตุของการเกิดโรคนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยความรุนแรงของโรค โรคประจำตัว อาชีพ และวัย ล้วนส่งผลต่ออาการของโรคด้วย ซึ่งในเคสของผู้ป่วยรายนี้การตัดแขนขาเป็นวิธีการรักษาเนื้อเยื่อที่เน่าตาย เนื่องจากเนื้อตายจะปล่อยสารพิษเข้ากระแสเลือด นอกจากนี้ การตัดเนื้อตายยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่เพื่อให้แผลหาย แพทย์จะรักษาควบคู่ไปด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อ
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ประชาชนควรไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีสัญญาณปัญหาสุขภาพ ไม่ควรซื้อยามาทานเองโดยไม่ทราบที่มาที่ไป เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงตามมาได้
ข้อมูลจาก phunuphapluat
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อุทาหรณ์ หนุ่มจีนติดนิสัย ชอบแคะหู นาน 10 ปี จนตรวจพบเป็นมะเร็งรูหู
- แพทย์พบ “แมงมุมจิ๋ว” ลอกคราบในหูหญิงชรา หลังมีอาการเสียงคลิก 4 คืนติด
- สาวไต้หวัน ไอไม่หยุด หมอส่องกล้องถึงรู้ ฝาปากกา เผลอกลื่น 20 ปีที่แล้ว ยังติดในหลอดลม