ข่าว

หนุ่มร้อง ‘สายไหมต้องรอด’ ตำรวจจับผิดตัว เหตุชื่อ-สกุลตรงกัน ติดคุกหลาย ชม.

หนุ่มร้อง สายไหมต้องรอด ตำรวจจับผิดตัว คดีฉ้อโกง เนื่องจากชื่อและนามสกุลตรงกัน ทำติดคุกหลายชั่วโมง และอับอายเสียชื่อเสียง

นายกฤษณะ สุขกล่ำ อาชีพขับรถรับจ้าง เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังจากที่ถูกตำรวจจับกุมคดีฉ้อโกง ทั้งที่ไม่ได้ทำผิด และต้องติดคุกอยู่นานหลายชั่วโมง หลังจากที่ตำรวจออกหมายจับผิดคน เนื่องจากชื่อ-นามสกุล ตรงกันแต่เลขบัตรประชาชนไม่เหมือนกัน

นายกฤษณะเล่าว่า เมื่อประมาณปี 2565 มีคนทักมาในเฟซบุ๊กว่าโดนฉ้อโกงหลังโอนเงินลงทุน 50,000 บาทมาที่บัญชีชื่อ-นามสกุลของนายกฤษณะ ซึ่งนายกฤษณะ ก็ได้ตอบปฏิเสธไปว่าไม่ใช่

ต่อมา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 11 โมงเช้า มีตำรวจชุดสืบสวนของ สน.คันนายาวประมาณ 6 คน นำหมายจับคดีฉ้อโกงที่สภ.เด่นชัย จังหวัดแพร่ เดินไปสอบถามเพื่อนบ้านในละแวกนั้นหลายหลังพร้อมโชว์หมายจับให้ดู ทำให้อับอายเสียชื่อเสียง

จากนั้น จึงมาเชิญตนไปที่ีโรงพักให้ถ่ายรูปคู่กับหมายจับ แล้วเอาไปขังคุกภายในโรงพัก พอตอนเที่ยงคืนได้นำขึ้นรถตำรวจพาไปส่งที่ สภ.เด่นชัย จังหวัดแพร่ โดยมีแฟนกับญาติตนเองขับรถตามไปด้วย พอถึงสภ.เด่นชัย จังหวัดแพร่ ตำรวจเจ้าของคดีได้ สอบสวนตนเองถึงรู้ว่าเป็นการจับผิดตัว ตำรวจจึงปล่อยตัวและออกเอกสารยืนยันว่านายกฤษณะไม่ใช่ผู้ต้องหา

นายกฤษณะจึงนำเอกสารดังกล่าวไปยืนยันกับตำรวจสน.คันนายาวให้ลบโพสต์ที่ลงรูปตอนนายกฤษณะถูกจับกุม แต่ตำรวจไม่ยอมลบ พร้อมพูดว่า “กูก็ยังไม่เชื่อมึง” นอกจากลูกสาว 5 ขวบยังเห็นภาพตอนตนเองถูกจับกุม ทำให้ครอบครัวเจ็บปวด และทำให้ตนรู้สึกอับอายเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้.สภ.เด่นชัย ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง และสน.คันนายาวทำไมถึงนำหมายจับไปเดินถามเพื่อนบ้านแบบนั้น ทำให้เขาอับอายและพอเป็นข่าวดังแล้วถึงมาลบ

ขณะที่ทางเฟซบุ๊กของ สน.คันนายาว ชี้แจงว่า “สน.คันนายาว ขอเรียนชี้แจง กรณีการจับกุมตามหมายจับที่ถูกนำเสนอทางสื่อโซเชียลมีเดียนั้น ทาง สน.คันนายาว เพียงแต่ประชาสัมพันธ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการจับกุมในช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรม ซึ่งการลงข้อความดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาจะเปิดเผยข้อมูล หรือทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหายโดยมาตรการการปิดบังใบหน้า และหลีกเลี่ยงการใช่ชื่อ สกุลจริง ในการลงข้อมูล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว มีความตั้งใจที่จะกวาดล้างอาชญากรรมและจับกุมผู้กระทำความผิดในทุกรูปแบบ

และในกรณีการออกหมายจับ หากมีความผิดพลาดในข้อมูล สน.คันนายาว จะได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.เด่นชัย จ.แพร่ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป เพื่อให้ผู้แจ้งได้รับความสะดวกในการประสานงาน”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button