รวมไอเดียท่าโพสถ่ายรูปวันตรุษจีน อัปเดทท่าใหม่ ๆ ประจำปี 2567 มัดรวมท่ายืน-ท่านั่งสุดชิคที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็เป๊ะปังทุกองศา
“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ทุก ๆ ท่านนะคะ เชื่อว่าผู้อ่านเกินกว่าครึ่ง ณ ที่นี้คงจะจัดแพลนเที่ยวตรุษจีนกันไว้แล้วแน่นอน และก็นับว่าเป็นโชคดีที่เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี ทำให้ทุก ๆ คน สามารถจัดแพลนเที่ยวกันได้อย่างอิสระ และสามารถเทียวยาว ๆ สองวันเต็มได้เลย
แน่นอนว่าเมื่อเดินทางไปเที่ยวทั้งที สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “การถ่ายรูป” เพราะไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ บรรดาภาพถ่ายเหล่านั้นก็จะเปรียบเสมือนล็อคเก็ตบันทึกความทรงจำ วันนี้ทาง Thaiger จึงมาพร้อมกับไอเดียท่าโพสถ่ายรูปวันตรุษจีนที่รับรองได้ว่าเทศกาลตรุษจีน 2567 ของคุณจะน่าจดจำ และเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
โพสท่า “แบบนั่ง” อย่างไรให้ดูดีขึ้นกล้อง
พิกัดสถานที่ยอดฮิตที่ทุกคนมักจะไปเดินทางไปเที่ยวในวันตรุษจีนก็คือ วัดจีน ศาลเจ้า รวมไปถึงร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์จีน เมื่อไปเยือนทั้งทีก็ต้องเก็บภาพไว้เป็นความทรงจำเสียหน่อย แต่โจทย์ยากก็คือควรโพสท่าอย่างไรให้ภาพถ่ายวันตรุษจีนของเราน่าจดจำ โดยเฉพาะท่าโพสแบบนั่งที่ดูจะไม่ค่อยมีลูกเล่น ไม่ว่าจะถ่ายกี่ทีก็ดูซ้ำจำเจไปเสียหมด หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เผชิญกับปัญหานี้ บอกเลยว่าห้ามพลาด
1. ท่านั่งไขว้ห้าง
ท่านั่งยอดฮิตของสาว ๆ เวลาถ่ายภาพ เป็นการนั่งโดยเอาขาทั้งของข้างวางทับซ้อนกัน ซึ่งสามารถเอาขาขวาทับขาซ้าย หรือขาซ้ายทับขาขวาก็ได้ขึ้นอยู่กับความถนัดและความคุ้นชินของแต่ละบุคคล การนั่งไขว้ห้างสามารถนำไปใช้กับสถานที่ที่มีโซฟา เก้าอี้ หรือมีที่นั่งสวย ๆ ซึ่งไม่เพียงจะเป็นท่าโพสของสาว ๆ เท่านั้น แต่บรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งหลายก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยอาจปรับเป็นท่าไขว้ปลายเท้าแทน
สำหรับบรรดาคนเก๋ที่อยากให้่ท่าโพสดูท่าสนใจมากขึ้นและดูไม่น่าเบื่อเกินไป สำหรับผู้หญิงอาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการวางมือเท้าไว้ที่เบาะโซฟา เท้าแขนไว้ข้างโซฟา หรือทำท่าทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าโพสสมัยนิยมอย่างการทำมินิฮาร์ท และการชูสองนิ้ว ส่วนคุณผู้ชายอาจจะเอามือมาประสานไว้ที่ตัก
2. นั่งเอียง 45 องศา
เทคนิคท่าถ่ายรูปแบบนั่งเอียง 45 องศาบนพื้น เป็นการเลือกชันขาข้างใดข้างหนึ่งเป็นแนวสามเหลี่ยม จากนั้นก็เท้าแขนไปด้านหลัง และยืดตัวขึ้นเล็กน้อย ในที่นี้อาจมองกล้องหรือทำท่าเผลอก็ได้ สำหรับท่าโพสนี้สามารถนำไปใช้กับการลงไปกับพื้นที่มีลวดลายลูกเล่น หรืออาจเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยของประดับตกแต่งห้อยระย้าในวันตรุษจีน
3. ท่านั่งโพสชันขา
การโพสท่าแบบนั่งชันขา และหันตรงก็เป็นอีกท่าที่นิยมอย่างมาก เพราะสามารถโชว์ใบหน้าได้อย่างชัดเจน หากใครที่อยากเพิ่มท่าทางให้ดูน่าสนใจมากขึ้น อาจนั่งชนขาไปพร้อม ๆ กับการยกมือขึ้นมาเท้าคาง หรือเอามือเท้าไปข้างหลัง การโพสท่าในลักษณะนี้จะเหมาะกับผู้ที่แต่งตัวเท่ห์ ๆ หรือต้องการให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูมีความฮิป ไม่ดูจีนจนกลมกลืนไปกับสถานที่ท่องเที่ยวจนเกินไป
4. นั่งโพสแบบเผลอ ๆ
ท่าโพสที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้รูปภาพที่ออกมาดูไม่ได้ตั้งใจมาก ท่าโพสเผลอ ๆ เหมาะกับสถานที่ที่ตกแต่งสวยงาม อาทิ การไปเที่ยวตามวัดจีน หรือร้านอาหาร เพราะการโพสท่าแบบเผลอ ๆ จะเปรียบเสมือนกับการที่เรากำลังเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของสิ่งรอบข้าง
เทคนิคการนั่งโพสท่าเผลอ ๆ ที่ทำให้ถ่ายภาพของคุณออกมาดูดีก็คือ การนั่งยืดตัว และโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ซึ่งจะถ่ายมุมข้าง หรือมุมตรงก็ได้
5. ท่าโพสเอามือเท้าคาง
ท่าเอามือเท้าคางเป็นการโพสท่าที่ทำให้ท่านั่งธรรมดา ๆ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น การโพสท่านี้จำเป็นต้องนั่งอยู่คู่กับโต๊ะ หรือสถานที่ที่มีความต่างระดับใกล้เคียงกับข้อศอก เพื่อให้การเท้าคางดูไม่ฝืน และเป็นธรรมชาติที่สุด ในที่นี้อาจนำไปใช้เมื่อต้องโพสท่าถ่ายรูปบนโต๊ะอาหาร อาทิเช่น การถ่ายรูปกับครอบครัวขณะร่วมมื้ออาหารในวันตรุษจีนร่วมกัน
6. ท่าโพสนั่งกอดเข่า
อาจเป็นท่าโพสที่ไม่เหมาะกับสาว ๆ ที่ใส่ชุดกี่เพ้าสักเท่าไหร่ เพราะจำเป็นต้องนั่งเอียงตัว 45 องศา ยืดขาสองข้างออกไปเล็กน้อย และนำมือมากอดเข่า ซึ่งข้อดีของการโพสท่านี้คือจะช่วยให้ดูผอมเพรียว และดูขายาวมากขึ้น ซึ่งจะเหมาะสำหรับการนั่งลงกับพื้นตามที่สาธารณะที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
7. นั่งท่าสำรวม
การนั่งท่าสำรวมเหมาะแก่การถ่ายรูปกับญาติผู้ใหญ่ หรือถ่ายรูปร่วมกับครอบครัว แน่นอนว่าเมื่อต้องถ่ายรูปร่วมเฟรมกับบุคคลจำนวนมากอย่างเช่นสมาชิกครอบครัว บางส่วนก็ต้องลงมานั่ง บางท่านก็อาจจะยืนซ้อนกัน สำหรับท่าโพสท่านั่งที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์นี้คือการนั่งสำรวม สำหรับคุณผู้หญิงก็อาจจะนั่งพับเพียบ และบรรดาผู้ชายก็อาจจะนั่งทับส้นเท้า จากนั้นก็เอามือประสานไว้ที่ตัก
“ยืน” โพสท่าอย่างไรให้ดูเก๋ มีรสนิยม
เมื่อมีท่าโพสแบบนั่ง แน่นอนว่าก็ต้องมีท่าโพสแบบยืน ซึ่งการโพสท่าในอิริยาบถนี้ก็จะมีความอิสระมากกว่าการนั่ง เพราะสามารถทำท่าทางได้ง่ายกว่า และไม่มีข้อกำจัดเหมือนการนั่ง อีกทั้งยังเหมาะกับทุกสถานที่ ไม่ว่าจะไปเที่ยววัดวาอาราม ศาลเจ้า และร้านอาหาร
1. ท่าโพสยืนล้วงกระเป๋า
ท่าโพสยืนล้วงกระเป๋า เรียกได้ว่าเป็นท่าสุดฮิตของคุณผู้ชายเลยก็ว่าได้ เพราะท่ายืนล้วงกระเป๋าทำให้ดูเท่ห์ ดูสุขุมมากขึ้น แต่สำหรับคุณผู้หญิงก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะแม่จะเป็นผู้หญิงก็สามารถโพสท่านี้ได้เช่นกัน ซึ่งการโพสท่านี้จะทำให้บรรดาคุณผู้หญิงดูมีเสน่ห์ดึงดูดน่าค้นหา และแฝงไปด้วยความเป็นสมาร์ท
เทคนิคโพสท่าถ่ายรูปยืนล้วงกระเป๋าให้ดูดีคือ การใช้มือข้างใดข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพียงเล็กน้อย จากนั้นอาจเอียงตัวเล็กน้อย และหันหน้าไปด้านข้าง คล้ายให้ดูเหมือนเผลอ ๆ หรือหากบางคนที่ต้องการให้เห็นหน้าชัด ๆ ก็อาจจะหันหน้าตรง หรือเอียงหน้ามามองกล้องก็ได้เช่นกัน
2. คารวะแบบจีน
ท่าโพสคารวะแบบจีน หรือที่เรียกกันว่า การทักทายคารวะแบบจั้วอี (作揖) ที่เป็นท่าประสานมือทั้งสองขึ้นในระดับหน้าอก โดยผู้หญิงจะเอามือขวาบังมือซ้าย ส่วนผู้ชายจะเอามือซ้ายบังมือขวา การโพสท่าคารวะเป็นการทำท่าทางที่สื่อความถึงวัฒนธรรมจีนได้อย่างชัดเจนที่สุด เหมาะแก่การไปถ่ายรูปยังสถานที่ที่ตกแต่งสไตล์จีน หรือเหมาะแก่การไปวัด ไปไหว้เจ้า ทั้งยังเหมาะแก่การถ่ายรูปกับผู้อาวุโส เพราะเป็นท่าที่สุภาพ
3. ยืนไหว้
หากท่านใดคิดว่าการทำท่าคารวะอาจดูเป็นทางการมากเกินไป ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นการทำท่าไหว้เจ้า ท่าพนมมือ หรือไหว้แบบไทย ๆ แทน การโพสท่านี้อาจเป็นการพนมมือไหว้พระ ไหว้เจ้า หรืออาจเป็นภาพที่ถูกถ่ายโดยไม่ตั้งใจขณะที่กำลังขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่
นอกจากนั้นอาจนำไปใช้โพสท่าถ่ายรูป ขณะกำลังรอรับอั่งเปาจากญาติผู้ใหญ่ หรือกำลังรับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ก็ได้เช่นกัน
4. ท่ายืนโพสเอียงคอ
ถือเป็นท่าโพสง่าย ๆ ที่เพียงเอียงคอเล็กน้อยก็ดูน่ารักมีลูกเล่น แม้จะเป็นง่าย ๆ แต่ก็มีเทคนิคที่เหมือนกัน คือ ทุก ๆ ท่านจะต้องยืนเอียงตัวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้รูปออกมาดูทื่อจนเกินไป และอาจเอามือไขว้หลัง หรือเอามือถือกระเป๋า
ท่าโพสนี้เหมาะแก่การยืนถ่ายรูปตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ที่มีคนจำนวนมากเดินผ่านไปมา อาทิเช่น วัดจีน หรือโรงเจ ซึ่งการยืนโพสท่าเอียงคอเช่นนี้จะทำดูโดดเด่นขึ้นมาจากคนอื่น ๆ
5. ยกมือบังแดด
ถือเป็นท่าโพสที่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ไปเที่ยวในยามเที่ยงวันอย่างการไปไหว้เจ้า ไปเที่ยวชมวัดจีน เทคนิคการโพสท่าให้ดูดีก็มีง่าย ๆ คือ ยกมือข้างที่ถนัดขึ้นมาบังแดด ซึ่งจะหันหน้าเข้าแดด หรือหันหน้ามามองกล้อง และให้เงาของแสงแดดลอดผ่านใบหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน
6. ท่าโพสยืนจับของตกแต่ง
การโพสแบบยืนจับของตกแต่ง เป็นท่าโพสที่เหมาะกับการไปเที่ยวยังสถานที่ที่ประดับตกแต่งไปด้วยของสวยงามต่าง ๆ การยืนเอียงตัว และเอื้อมมือไปจับสิ่งของตรงหน้าจะทำให้ดูมีชีวิตชีวาและดูเป็นส่วนหนึ่งกับสถานที่แห่งนั้นมากขึ้น และหากทำท่าทางคล้ายสนใจในสิ่งสวยงามตรงหน้าก็จะทำให้ภาพถ่ายดูน่าดึงดูดมากขึ้น อาทิ การเอื้อมมือไปจับประตูวัดจีน การเอามือเท้ากรอบประตู การยืนเกาะเสา การทำท่าคล้ายจะจับรูปปั้น
7. ยืนพิงกำแพง
การยืนพิงกำแพงก็ถือเป็นการโพสสุดฮิตที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้คนโดดเด่นขึ้นจากสถานที่ท่องเที่ยว และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งหากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส หรือใส่ชุดกี่เพ้าสีแดงแล้วนั้น การยืนพิงกำแพงจะทำให้ดูน่าดึงดูดอย่างมาก
สำหรับในกรณีที่ยืนพิงกำแพงปูนเปลือย การแต่งตัวด้วยสีสันก็จะขับออร่าให้คนเด่นขึ้น แต่หากเป็นกำแพงวัดจีนที่ทาด้วยสีแดง การแต่งตัวสีสันก็จำให้ภาพถ่ายดูสนุกสนาน
8. ท่าโพสถือพัด
ท่าไฮท์ไลท์ประจำเทศกาลตรุษจีน ท่าโพสพร้อมกับถือพัดจีน ซึ่งถือเป็นท่ายอดฮิตของสาว ๆ และหากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสไตล์จีน หรือชุดกี่เพ้าด้วยแล้ว เมื่อมีพร็อปเป็นพัดจีนก็จะส่งเสริมให้ภาพถ่ายดูเข้ากับเทศกาลมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ภาพถ่ายดูมีลูกเล่น ไม่จืดชืดจนเกินไป
เทคนิคการถือพัดให้สวยดูดีก็คือ จะต้องกางพัดออกมาให้สุด และหันฝั่งที่มีลวดลายออก เพื่อให้ภาพถ่ายดูมีลวดลายและมีสีสันมากขึ้น สำหรับตัวบุคคลจะยืนเอียง 45 องศา หรือยืนหันหน้าตรงและเอียงคอเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน
9. ท่ายืนโพสจับเสื้อผ้า
ท่าโพสจับเสื้อผ้าเป็นการทำให้เสื้อผ้าดูโดดเด่นขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ชุดกี่เพ้า หรือชุดสวยหล่อ การจับหรือแตะเสื้อผ้าที่ใส่อยู่จะทำให้ผู้สวมใส่ดูกลมกลืนไปกับชุดที่ใส่อยู่ อีกทั้งยังเป็นการโพสท่าที่ไม่ต้องใช้พร็อปอีกด้วย
10. ท่าเดิน
การโพสท่าที่ดูคล้ายการเดินไปข้างหน้า เป็นอีกหนึ่งท่าที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะเป็นการทำให้การถ่ายภาพดูเป็นธรรมชาติ และดูไม่ได้ตั้งใจจนเกินไป และหากไปท่องเที่ยวยังวัดจีนที่สวยงาม การเดินจะถือเป็นถ่ายโพสที่ดึงดูดความน่าสนใจและสถานที่ได้ดีที่สุด
จบลงไปแล้วสำหรับ 17 ท่าโพสถ่ายรูปวันตรุษจีน ประจำปี 2567 ทั้งท่าโพสแบบนั่งและแบบยืน ซึ่งเหมาะกับสายถ่ายรูปทั้งเพศชายและเพศหญิง จากท่าทางหลากหลายที่ Thaiger นำมาฝากในวันนี้ ท่านใดชื่นชอบแบบไหนก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมของสถานที่และเสื้อ่ผ้าเครื่องแต่งกาย สุดท้ายนี้ผู้เขียนหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับทริปท่องเที่ยววันตรุษจีน และได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างคุ้มค่าที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวมไอเดียแต่งตัวตรุษจีน หมวยยังไงให้ปัง ถ้าปีนี้ไม่อยากใส่ “ชุดกี่เพ้า”
- จัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน 2567 ตั้งของไหว้แบบไหน ใช้ธูปกี่ดอก รวยเฮง ชีวิตปัง
- ‘อั่งเปา-แต๊ะเอีย’ แจกวันไหน เงินขวัญถุงตรุษจีน ใครได้บ้าง ใส่ซองกี่บาทถึงจะมงคล
