วันตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน ตรงกับวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน ในปี 2567 นี้ ตรุษจีนตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ในช่วงวาระของการก้าวขึ้นศักราชใหม่ ชาวจีนถือเรื่องมงคล โชคลาภมาก ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติสิ่งดีๆ และ “ห้ามทำ” ในสิ่งที่เชื่อว่านำโชคร้ายมาให้อย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะการกิน “อาหาร” นอกจากผลไม้หรืออาหารมงคลที่เหมาะรับประทาน ใช้ไหว้เจ้าแล้ว ก็มีอาหารบางประเภทที่ควรระวัง หนึ่งในนั้นคือ “โจ๊ก” ห้ามกินในช่วงเทศกาลตรุษจีน วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยวเด็ดขาด เพราะคนจีนแต่โบราณมีความเชื่อกันว่าไม่เป็นมงคล วันนี้ Thaiger ขอมาอธิบายสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร
1. โจ๊กเป็นอาหารของคนจน
ในสังคมจีนแต่อดีต โจ๊กเป็นอาหารที่คนยากจนนิยมกิน เพราะราคาถูก หาซื้อง่าย และทำง่าย เชื่อกันว่าการกินโจ๊กในวันตรุษจีน เปรียบเสมือนการดึงดูดความยากจนมาสู่ตัวเอง
2. โจ๊กมีลักษณะคล้ายข้าวยาจก
โจ๊กมีลักษณะเป็นอาหารเหลว คล้ายกับข้าวยาจกที่คนสมัยก่อนนิยมแจกจ่ายให้ขอทาน เชื่อกันว่าการกินโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ชีวิตตกต่ำ ยากจนเหมือนยาจก
3. โจ๊กชื่ออาหารไม่เป็นมงคล
คำว่า “โจ๊ก” ในภาษาจีนแต้จิ๋ว ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “เจ๊ง” ซึ่งหมายถึง “ล้มละลาย” เชื่อกันว่าการกินโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ธุรกิจการค้าไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ภาษาไทยเอง ก็มีสำนวนที่เกี่ยวกับโจ๊กในความหมายไม่ดี เช่น “เละเป็นโจ๊ก“
4. โจ๊กเป็นอาหารจืด
โจ๊กเป็นอาหารที่มีรสอ่อน จืดชืด เชื่อกันว่าการกินโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ชีวิตตลอดปีนี้จืดจาง ไม่มีสีสัน ไม่มีความรุ่งโรจน์
5. โจ๊กเป็นอาหารที่ไม่มีสีสัน
ในวันตรุษจีน ชาวจีนนิยมกินอาหารที่มีสีสันสดใส เพื่อเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่าการกินโจ๊กซึ่งเป็นอาหารที่มีสีขาว จะทำให้ชีวิตจืดชืด ไร้สีสัน
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเหล่านี้เป็นเพียงประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดต่อกันมา ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลว่าอยากจะปฏิบัติตามหรือไม่ เพราะในทางการแพทย์ปัจจุบัน หมอก็แนะนำให้ผู้ที่ป่วยกินโจ๊ะ เนื่องจากเป็นอาหารที่ทานง่าย กับทุกวัย ย่อยง่าย ไม่ทำร้ายระบบย่อยอาหาร