การเงินเศรษฐกิจ

ซื้อสินค้า โลตัส บิ๊กซี ลดหย่อนภาษี EASY e-Receipt ได้ พร้อมวิธีขอใบกำกับภาษี

อย่าเสียสิทธิ ซื้อของ สินค้าในโลตัส และ บิ๊กซี สามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำมาลดหย่อนภาษีตามมาตรการ EASY e-Receipt ได้ เพียงใช้แค่อีเมล บัตรประชาชน และ ใบเสร็จสินค้าเท่านั้น

เริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับมาตรการ EASY e-Receipt 2567 จากภาครัฐ ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ เมื่อซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เพื่อนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ในปีภาษี 2567 สูงสุดถึง 50,000 บาท

สำหรับห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ทุกที่ทั่วประเทศไทย คงหนีไม่พ้น 2 เจ้าดังอย่าง โลตัส (Lotus) และ บิ๊กซี (BigC) ที่ในปัจจุบันขยายสาขาครอบคลุมไปถึงร้านสะดวกซื้อในระดับอำเภอและตำบลเลยทีเดียว แม้เราจะซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้านหรือในชีวิตประจำวัน ก็สามารถขอใบกำกับภาษีมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้ Thaiger จะขอพาทุกคนมาศึกษาวิธีขอใบกำกับภาษีจากโลตัส และ บิ๊กซี เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี 2567 กัน ของ่าย ทั้งทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าทุกสาขา

วิธีขอใบกำกับภาษี เทสโก้ โลตัส 2
ภาพจาก : Lotus’s – โลตัส

วิธีขอใบกำกับภาษี โลตัส (Lotus’s)

สำหรับวิธีการขอใบกำกับภาษีจากห้างสรรพสินค้าโลตัสนั้น สามารถทำได้ทั้ง 2 ช่องทาง โดยมีวิธีการดังนี้

กรณีซื้อสินค้าที่สาขา

1. เตรียมเลขที่บัตรประชาชน หรือ บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง), อีเมล และใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุวันที่ซื้อสินค้าตรงกับวันที่ยื่นขอใบกำกับภาษีเท่านั้น

2. นำเอกสารทั้งหมดในข้อ 1. ยื่นที่พนักงานจุดบริการลูกค้า

3. หลังจากที่พนักงานตรวจสอบเอกสารครบถ้วน จะมอบใบกำกับภาษีแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt โดยสามารถตรวจสอบใบกำกับภาษีได้ 2 ช่องทาง คือ ทางอีเมล และ สแกน QR Code รับใบกำกับภาษีใน Tax Box

กรณีซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

1. เมื่อสั่งซื้อสินค้าเสร็จ และอยู่ในหน้าสรุปคำสั่งซื้อสินค้า ให้เลือกเพิ่มข้อมูลใบกำกับภาษีด่านล่าง ซึ่งอยู่ใต้แถบสั่งซื้อสินค้า

2. เลือกระบุประเภทใบกำกับภาษี ระหว่าง บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล (เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด) จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมกดบันทึกข้อมูล

3. หลังจากบันทึกข้อมูลเรียบร้อย ข้อมูลใบกำกับภาษีจะแสดงตามที่ผู้ซื้อได้ระบุในข้อ 2 และใบกำกับภาษีจะถูกส่งทางอีเมลของบัญชีผู้ซื้อตามที่ได้ลงทะเบียนไว้

วิธีขอใบกำกับภาษี บิ๊กซี
ภาพจาก : Big C

วิธีขอใบกำกับภาษี บิ๊กซี (Big C )

สำหรับวิธีการขอใบกำกับภาษีจากห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนั้น สามารถทำได้ทั้ง 2 ช่องทาง โดยมีวิธีการดังนี้

กรณีซื้อสินค้าที่สาขา

1. เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) พร้อมทั้งใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุวันซื้อสินค้าวันเดียวกับที่ยื่นขอรับใบกำกับภาษี

2. นำเอกสารทั้งหมดในข้อ 1. ยื่นที่พนักงานจุดบริการลูกค้า พร้อมทั้งแจ้งอีเมล์ หรือ เบอร์โทรศัพท์ ให้เรียบร้อย

3. หลังจากที่พนักงานตรวจสอบเอกสารครบถ้วน ก็รอรับใบกำกับภาษีได้เลย (ต้องเลือกรับใบกำกับภาษี e-Tax Invoice & e-Receipt เท่านั้น เพื่อสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีตามมาตรการ EASY e-Receipt ได้)

กรณีซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน บิ๊กซี พลัส และ เว็บไซต์ บิ๊กซีออนไลน์

1. เข้าสู่แอปบิ๊กซี พลัส เพื่อเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมมาตรการ EASY e-Receipt

2. เมื่อเลือกซื้อครบถ้วน ไปที่รถเข็น จากนั้น กดสั่งซื้อ

3. กรอกข้อมูลที่หน้าสรุปคำสั่งซื้อ กดเลือกรับใบกำกับภาษี

4. กดเลือก เพิ่มที่อยู่ใหม่

5. กดเลือก ประเภทผู้เสียภาษี (บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล) จากนั้นกรอกข้อมูลและบันทึก

6. กดเลือก รูปแบบใบกำกับภาษีเป็น e-Tax Invoice กรอกอีเมลที่ต้องการรับใบกำกับภาษี จากนั้นกดชำระเงิน

รายชื่อสินค้าที่ไม่ร่วมมาตรการ EASY e-Receipt

รายชื่อสินค้าที่ไม่ร่วมมาตรการ EASY e-Receipt

สำหรับสินค้าที่ไม่ร่วมรายการ และไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามมาตรการ EASY e-Receipt ของห้างสรรพสินค้าโลตัสและบิ๊กซี ได้แก่

  • ของสด และสินค้าทางการเกษตรที่ยังไม่ได้แปรรูป อาทิ ผักสด ผลไม้สด เนื้อหมู เนื้อไก่ นมวัวรสจืด
  • อาหารสัตว์เลี้ยง
  • บัตรของขวัญ
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ยาสูบทุกชนิด
  • หนังสือพิมพ์
  • นิตยาสาร
  • ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า)
  • บริการจ่ายบิล เติมเงิน
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
  • ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
  • ค่าน้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Best Writer

นักเขียนบทความประจำ Thaiger จบการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มีความเชียวชาญด้านวงการเพลงไทย ภาพยนตร์ อนิเมะ ชื่นชมติดตามข่าวสารสังคม กีฬา เทคโนโลยี แตกประเด็น สรุปเรื่องราวมาร้อยเรียงผ่านข้อความสู่สายตาผู้อ่าน ช่องทางติดต่อ best.t@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button