อัยการแจงกรณี คืนสำนวน มือปืน 14 ปี กราดยิงพารากอน ชี้ยังสู้คดีไม่ได้
อัยการชี้แจงกรณีที่ คืนสำนวน มือปืน 14 กราดยิงพารากอน แพทย์ยืนยันผู้ต้องหายังสู้คดีไม่ได้ อาจขอรักษาตัวหลังหมดช่วงผัดฟ้อง 31 ธ.ค. 66
จากกรณีพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ส่งสำนวนให้อัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว ส่งสำนวนว่าเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงพารากอน ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา ก่อนถูกส่งสำนวนคืน โดยระบุว่าขั้นตอนการสอบสวนแจ้งข้อหาไม่ชอบ เนื่องจากทำก่อนแพทย์ตรวจประเมินนั้น
ล่าสุด นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อคืนสำนวนไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะต้องงดการสอบสวนไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 14 เนื่องจากกระบวนการใด ๆ ที่พนักงานสอบสวนดำเนินการไปโดยไม่ยึดหลักกฎหมายดังกล่าว ก็ต้องถือว่าเป็นกระบวนการสอบสวนที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ซึ่งคดีนี้เมื่อได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน นางศจีมาศ บัวรอด อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีและคณะทำงานอัยการได้ตรวจสำนวนคดีนี้แล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ต้องหาที่เป็นเด็กยังมีอาการป่วยอยู่ และเป็นคนไข้ของสถาบันกัลยาราชนครินทร์มาโดยตลอด
โดยมีใบรับรองประเมินผลการตรวจรักษายืนยันว่า ผู้ต้องหายังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ เมื่อข้อเท็จจริงทางการแพทย์ยืนยันเช่นนี้ การพิจารณาของพนักงานอัยการไม่มีประเด็นอื่นนอกจากคืนสำนวนกลับไปให้พนักงานสอบสวนรอกระบวนการบำบัดรักษาจากคุณหมอที่ประเมิน ตรวจผู้ต้องหาว่าอยู่ในภาวะปกติ และสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว ภายในอายุความ 20 ปี
เมื่อการสอบสวนชอบด้วยกฎหมายและสอบสวนเสร็จแล้วค่อยส่งสำนวนให้ พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายอีกครั้ง จากการประสานกับคุณหมอทราบเบื้องต้นว่าช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ คณะกรรมการตรวจรักษาจะประชุมเพื่อประเมินอาการของผู้ต้องหาอีกครั้ง แต่การควบคุมตัวตามกฎหมายจะครบกำหนดระยะผัดฟ้องครั้งสุดท้าย ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ทางคุณหมอและคณะกรรมการตรวจรักษาผู้ต้องหา จะมีการเดินทางไปพบผู้ปกครองของผู้ต้องหา และจะแจ้งว่าเด็กยังมีอาการป่วยอยู่ ทางทีมที่บำบัดรักษาจะขอรับตัวไปบำบัดรักษาต่อ หากผู้ปกครองเข้าใจและอนุญาต ถ้าคุณหมอก็จะรับตัว ผู้ต้องหากลับไปเป็นคนไข้เพื่อรักษาต่อตามปกติ
แต่สมมติว่าผู้ปกครองไม่ยอมและไม่อนุญาต หากทางคณะกรรมการของแพทย์ประเมินแล้วว่าจำเป็นจะต้องดูแลผู้ต้องหาเพื่อป้องกันอันตราย สำหรับตัวผู้ต้องหาเอง และสังคมอาจจะต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 มาตรา 22 บังคับ ที่จะเอาตัวผู้ต้องหาไปรักษาตัวต่อ
ซึ่งระยะเวลาการควบคุมตัวของแพทย์ผู้รักษา มีกรอบกฎหมายชัดเจนอยู่ใน พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 จะมีการแจ้งผลการตรวจรักษาให้กับพนักงานสอบสวนทุก 180 วัน ถ้ายังไม่หายก็สามารถขยายได้อีก 180 วันไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ต้องหาจะหายและสามารถต่อสู้คดีได้ เพราะเราไม่สามารถจะนำคนป่วยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ แต่ถ้าหายป่วยเเล้วก็ได้ไม่ต้องรอ 180 วัน ทีมแพทย์ที่รักษาสามารถรายงานให้พนักงานสอบสวนทราบเพื่อดำเนินการสอบสวนได้ทันที
อัยการส่งสำนวนคืน มือปืนอายุ 14 กราดยิงพารากอน ชี้ขั้นตอนการสอบสวนแจ้งข้อหาไม่ชอบ