ข่าวข่าวต่างประเทศ

ศาลโคโลราโด พิพากษา ตัดสิทธิ์ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ห้ามลงชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดี

ศาลโคโลราโด พิพากษาตัดสิทธิ์ โดนัลด์ ทรัมป์ ห้ามลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในรัฐ ชี้ขาดคุณสมบัติทางการเมืองตามมาตราที่ 14 วรรคที่ 3

ห้าม โดนัลด์ ทรัมป์ ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เฉพาะรัฐโคโลราโด

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่าศาลฎีการัฐโคโลราโดประเทศสหรัฐอเมริกาพิพากษาให้นาย โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่สามารถลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในรัฐนี้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติทางการเมือง ละเมิดกฎหมายบทแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่ 14 วรรคที่ 3 โดยยกว่าเกี่ยวข้องกับเหตุผู้ชุมนุมบุกอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อปี 2564

โดยวรรคดังกล่าวระบุว่า บุคคลใดเคยสาบานตนในฐานะสมาชิกรัฐสภาหรือข้าราชการสหรัฐฯ หรือสมาชิกนิติบัญญัติมลรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารหรือตุลาการมลรัฐ ว่าจะสนับสนุนรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา แล้วได้ก่อการจลาจลหรือกบฏ หรือได้ให้ความช่วยเหลือหรือความสะดวกแก่ศัตรูของสหรัฐฯ จะดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร หรือคณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีหรือรองประธานาธิบดี หรือดำรงตำแหน่งหน้าที่ฝ่ายพลเมืองหรือทหารของสหรัฐฯ หรือมลรัฐไม่ได้

Former President Donald Trump greets supporters as he arrives at a commit to caucus rally, Tuesday, Dec. 19, 2023, in Waterloo, Iowa. (AP Photo/Charlie Neibergall)

ขณะที่ตัวแทนของฝั่งนายทรัมป์ออกมาติคำพิพากษาในครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นการพิพากษาที่มีข้อบกพร่องอย่างชัดเจน พร้อมทั้งติเตียนกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรงอีกด้วย นอกจากนี้ฝั่งของนายทรัมป์ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลของนาย โจ ไบเดน ที่ล้มเหลวพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ชาวอเมริกันนำเขา (ไบเดน) ออกจากทำเนียบ พร้อมยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์แน่นอน

แม้ว่าคำพิพากษานี้จะมีผลแค่ในรัฐโคโลราโด แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าน่าจะกระทบการลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของนายทรัมป์ในปีหน้า เนื่องจากจะทำให้เกิดข้อถกเถียงว่า เขาควรจะยังเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ยังมีอีกหลายคดีรออยู่ ดังเช่นคดีของรัฐบาลกลางและรัฐจอร์เจีย ซึ่งว่าด้วยความพยายามล้มล้างการเลือกตั้ง

เหตุจราจลบุกรัฐสภา 2021 เกี่ยวข้องกับทรัมป์อย่างไร

เหตุผู้ชุมนุมบุกอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 ในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภากำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประจำปี 2563

ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและเชื่อว่าไบเดนชนะการเลือกตั้งอย่างไม่ชอบธรรม ทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้ชุมนุมในเช้าวันนั้น โดยกระตุ้นให้พวกเขาเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาและเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาหยุดรับรองชัยชนะของไบเดน

ผู้ชุมนุมหลายพันคนเริ่มเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาในช่วงบ่าย ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมฝูงชนได้ และฝูงชนก็เริ่มบุกเข้าไปในอาคาร

ผู้ก่อจลาจลทำลายทรัพย์สิน ทุบทำลายข้าวของ และขโมยเอกสารสำคัญจากอาคารรัฐสภา พวกเขายังบุกเข้าไปในห้องประชุมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร และพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะของไบเดน

การบุกอาคารรัฐสภาดำเนินไปเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนกระทั่งกองทัพมาถึงและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 140 ราย

เหตุผู้ชุมนุมบุกอาคารรัฐสภาถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ

เหตุผู้ชุมนุมบุกอาคารรัฐสภามีสาเหตุมาจากหลายประการ ประการแรก เกิดจากความโกรธแค้นและความผิดหวังของผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ไบเดนชนะการเลือกตั้ง ประการที่สอง เกิดจากความพยายามของทรัมป์และพันธมิตรของเขาในการเผยแพร่ข่าวลือเท็จเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ประการที่สาม เกิดจากความแตกแยกทางการเมืองที่รุนแรงในสหรัฐฯ

เหตุการณ์ครั้งนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ ในปัจจุบัน ยังคงมีการสอบสวนหาผู้เกี่ยวข้องและดำเนินคดีกับผู้ก่อจลาจล เหตุการณ์ครั้งนี้ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตยในสหรัฐฯ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button